นาทีนี้คงไม่มีใครที่จะไม่รู้จักกล้องดีไซด์สุดวนเทจจากค่าย ฟุจิฟิล์มแล้ว หลังหลายปีที่ผ่านทำการตลาดแต่ละครั้งทำเอาเป็นกระแสทั่วประเทศ โดยล่าสุดฟูจิก็สร้างแรงกระเทือนบนแผ่นดินสยามให้สะเทือนอีกครั้งในงานเปิดตัวเรือธงตัวใหม่ของค่ายอย่าง  FUJIFILM X-A5 ที่นำวงไอดอลสาว BNK48 มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้กล้องรุ่นนี้ทำเอากลุ่มโอตะยกขบวนไปตามเชียร์ถึงในงาน ซึ่งถือว่าเป็นการขยายตลาดครั้งใหญ่ของฟูจิเองด้วยจากเดิมที่จะเน้นผู้หญิง เซลฟี่ฟรุ้งฟริ้งอย่างเดียวก็ได้เหล่าโอตะผู้ชายดเข้ามาเปย์หนุนฟูจิชนิดที่ร้านค้าขายกันไม่หวาดไม่ไหวกันเลยทีเดียว

นอกจากการตลาดสุดคูลของค่ายกล้องสายฟรุ้งฟริ้งแล้ว อีกข้อที่ถือว่าเป็นจุดแข็งและลายเซ็นของค่ายฟูจิฟิล์มในทศวรรษนี้คือเรื่องของดีไซด์สุดวินเทจที่วัยรุ่นคนไหนได้สะพายหรือเดินถือก็หล่อเต็มสิบไปแล้ว ในส่วนอีกกลุ่มที่ชื่นชอบดีไซด์เพราะคิดถึงวัยเด็กที่แอบเอากล้องคุณพ่อมากดเล่นรอบบ้านจนโดนตบกบาลกันมาแล้ว ถือว่าการดีไซด์ของทางฟูจินั้นกินขาดและฉีกออกจากคู่แข่งรายใหญ่ที่ก่อนหน้านี้ครองตลาดกันใหญ่โตอย่าง Nikon และ Cannon ทั้งยังสามารถเก็บกินส่วนแบ่งตลาดมาได้ชิลๆ ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการออกแบบสุดวินเทจนี้ไม่ใช่ใครที่ไหนไกล ดีไซเนอร์แดนปลาดิบ มาซาซุมิ อิไม (Masazumi Imai) หัวเรือผู้ดันโปรเจคการออกแบบครั้งสำคัญของอดีตบริษัทฟิล์มถ่ายภาพที่กำลังอยู่ปากเหวฟื้นกลับมาเป็นหนึ่งในมหาอำนาจวงการกล้องรายใหม่ที่กำลังบุกยึดเมืองไทยเป็นเมืองขึ้นในตอนนี้

โดยเมื่อวันพฤหัสฯ ที่ผ่านมาในงาน  Brainstorm Design ซึ่งเป้นการจัดงานร่วมกันของสื่อชั้นนำของ Time Fotune และ Wallpaper ที่นำเหล่าดีไซเนอร์ตัวพ่อกว่า 68 คนจากทั่วโลกมาร่วมกันเสวนาที่ประเทศสิงคโปร์ในงานนี Masazumi Imai คือหนึ่งในดีไซเนอร์ชาวญี่ปุ่นที่ขึ้นพูดถึงแรงบันดาลใจในการออกแบบกล้องตระกูล X-Seriesในครั้งนี้ด้วย ลองไปอ่านดูว่าสิ่งใดคือแรงขับดันให้ X-Series ออกมาเปลี่ยนโลกจากการรายข่าวของ Fotune

“การออกแบบ X-Series เป็นการรวบรวมแก่นสำคัญของกล้องถ่ายภาพมาไว้ในกล้อง

รุ่นเดียว” Imai กล่าวต่อว่า การดีไซด์ที่ดีนั้นคือการไม่ไปเปลี่ยนแปลงส่วนที่ดีให้ผิด

เพี้ยนไป”

ในจำนวน 15 กล้องในตระกูลของ X-Series เราต้องการให้ผู้ใช้ได้ย้อนละลึกไปถึงช่วงที่คนยังใช้  rangefinder ซึ่งเป็นลายเซ็นหลักของฟูจิที่จะมาคู่กับความวินเทจในบรรยากาศการใส่ฟังชั่นที่ล้ำสมัย สวนทางกับนิคคอนและแคนนอนที่มักออกแบบให้ดูไฮเทคและล้าสมัยจนเกินไป ซึ่งทางฟูจิกล้าที่จะถอยมา 1 ก้าวเล็กน้อยในเรื่องของราคาและน้ำหนักแต่เรื่องของคุณภาพของรูปแล้วเราสู้ได้สูสีมาก โดยในการดีไซด์ X-Series ต้องการจะพาผู้ใช้ได้ย้อนเวลากับไปสู่ความทรงจำวัยเด็กของเหล่าช่างภาพทั่วไปที่มักแอบไปหยิบกล้องถ่ายภาพของพ่อมาเล่นเป็นประจำ “พ่อของผมมักจะเก็บกล้องถ่ายภาพไว้ในห้องส่วนตัวของท่านเสมอ และมักจะเตือนด้วยเสียงดุๆเป็นประจำว่า “อย่าไปเล่นกล้องถ่ายภาพพวกนั้นละ” imai ย้อนความหลังและกล่าวต่อว่า “กล้องพวกนั้นเป็นสิ่งที่ผมเห็นเป็นประจำเมื่อผมยังเด็ก”

imai ต้องการที่จะเก็บความรู้สึกที่โหยหาและแปลความรู้สึกนั้นออกมาผ่านพิมพ์เขียว ซึ่งเขาพยายามออกแบบกล้องที่สามารถส่งต่อความรู้สึกผ่าน 5 ความรู้สึก ทั้งรูป เสียง สัมผัส การมองเห็น รสชาติ ผ่านทางปุ่มกด หนังสังเคราะห์และเสียงลั่นชัตเอตอร์เวลากดถ่ายภาพ

แม้ความต้องการกล้องถ่ายภาพจะลดลงเนื่องมาจากการพัฒนาเทคโนโลยีการถ่ายภาพของสมาร์ทโฟนมีพัฒนาการที่ดีขึ้น แต่กล้องถ่ายภาพก็ยังสามารถค้นพบทางแตกต่างออกไปเพื่อสร้างแข่งขัน ทั้งยังใส่ฟังชั่นที่สมาร์ทโฟนทำได้อย่างการอัปโหลดลงสังคมโซเชียลโดยตรงจากอุปกรณ์ แต่ในปี 2011 เป็นปีที่วางจำหน่าย X-Series ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้วงการกล้องขึ้นมาในเรื่องของการออกแบบให้เข้ากับไลฟ์สไตล์

ที่มา : fortune.com , fortuneconferences.com