เมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา Gopro จัดกิจกรรมเชิญเหล่าตัวแทนจำหน่ายร่วมงานเปิดตัวกล้องแอคชั่นแคมฯ ตัวใหม่ของค่าย Gopro Hero 7 อย่างเป็นทางการพร้อมให้เหล่าผู้มาร่วมงานได้ทดลองใช้กล้องในสถานการณ์จริงตลอด 1 วันก่อนเริ่มจำหน่ายพร้อมกันทั่วโลกในวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา
โดยภายในงานมีการสาธิตและแนะนำการใช้งานฟีเจอร์ใหม่ใน Gopro Hero 7 ที่ได้รับการพัฒนาอย่างจริงจังจากรุ่นก่อนหน้าไม่ว่าจะเป็น SuperPhoto,Hyperlapse,HyperSmooth ออกมาได้สมบูรณ์ไร้ที่ติ และยังมีการพัฒนา Timelapse ไปอีกขั้นจนกลายเป็น timewarp ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเล่าเรื่องได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
และที่เป็นไฮไลท์ในงานนี้คงหนีไม่พ้น Live streaming ผ่านกล้อง Gopro เพียงเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านทาง Apps Gopro เท่านั้นก็สามารถ Live สดผ่านโซเชี่ยลต่างๆได้ทันทีไม่ว่าจะเป็น Facebook, Youtube และโซเชี่ยลมีเดียอื่นๆได้ผ่าน RTM ฟีเจอร์ที่ทาง Gopro พัฒนาเพื่อสามารถไลฟ์ผ่านโซเชี่ยลได้เสถียรและหลากหลายมากขึ้น และหากมีโซเชี่ยลยอดนิยมเพิ่มทางค่ายจะมีการอัพเดตให้กับผู้ใช้
ด้านฟีเจอร์ HyperSmooth เป็นอีกหนึ่งไม้เด็ดที่ Gopro พัฒนาจนออกมาเด็ดสมความตั้งใจด้วยความสามารถของระบบ AI ที่ช่วยให้การถ่ายภาพออกมาในสถานการณ์ที่ต้องเคลื่อนที่โดยไม่มีกิมบอลแต่ภาพที่ได้ออกมานั้นราวกับมีกิมบอลกันสั่นไว้ เรียกได้ว่าทำออกมาได้สมูทและการคลอปภาพก็เท่ากับ Gopro Hero 6 ที่ประมาณ 5% ของภาพเท่านั้น
โดยใน Gopro Hero 7 นี้จะมีทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกันภายใต้คอนเซ็ปต์ Good, better และ The Best โดยรุ่นต่ำสุดจะเป็น Gopro Hero 7 White, Gopro Hero 7 Silver และรุ่นท็อปค่าย Gopro Hero 7 Black โดยทาง Gopro กล่าวว่าต้องการแบ่ง section การใช้งานให้กับลูกค้าเพื่อการตอบโจทย์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า โดยทั้ง 3 รุ่นจะมีฟีเจอร์ที่ลดหลั่นกันไปตามราคา เริ่มต้นที่ 7,200 บาท 10,800 และ 14,500 ตามลำดับ
โดยทาง Gopro ประกาศวางขาย Gopro Hero 7 ครั้งแรกทั่วโลกในวันที่ 27 กันยายนนี้ผ่านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการทั่วประเทศ