บทสัมภาษณ์ล่าสุดของเว็บไซต์ imaging-resource ที่มีโอกาสได้นั่งคุยกับ Aki Murata ประธานฝ่ายขายและการตลาดคนใหม่ของ Olympus America ด้วยคำถามที่ว่า “อนาคตของ Olympus จะไปในทิศทางไหนกันแน่?” ในขณะที่เมื่อไม่นานมานี้
Panasonic ได้ประกาศการพัฒนาระบบฟูลเฟรมที่ Photokina 2018 ในเดือนกันยายน แล้วเกิดอะไรกับระบบ Micro Four Thirds ละ เป็นสัญญาณเตือนหรืออะไรกันแน่
ระบบ Micro Four Third ได้รับการพัฒนาร่วมกันโดย Olympus และ Panasonic ในปี 2008 บนกล้องไร้กระจกรุ่นแรกของโลก และในขณะที่บริษัทอื่นๆ ทำการตลาดทั่วไป ซึ่งตอนนี้ Panasonic ประกาศพันธมิตร L-mount กับคู่ค้า Leica และ Sigma จึงทำให้เกิดการพุ่งเป้ามาที่ Olympus อย่างจังว่าจะไปในทิศทางไหน
Aki Murata ให้คำตอบว่า “ทิศทางของOlympusนั้นดำเนินมาทางเดียว ตั้งแต่เมื่อ 50 ปีก่อนแล้วตามปรัชญาของเรา” ปรัชญาที่เขียนไว้โดย Yoshihisa Maitani ผู้ออกแบบและสร้างตำนานของ Olympus คือ พกพาสะดวก น้ำหนักเบา และทนทานไร้ที่ติ
ประเด็นสำคัญที่ Aki Murata ต้องการอธิบาย คือ มุมมองของการถ่ายภาพ การมีระบบขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบาและแข็งแรงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เซนเซอร์ขนาดเล็กของ Micro Four Thirds เป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญระหว่างการใช้กล้องแบบฟูลเฟรม เช่น ฟูลเฟรมต้องใช้เลนส์ 600mm เพื่อถ่ายภาพระยะไกลๆ ซึ่งเลนส์ก็มีขนาดและน้ำหนักที่เยอะมากๆ ในขณะที่ Micro Four Thirds ใช้เพียงเลนส์ 300mm ก็สามารถได้ภาพคุณภาพเท่ากัน
นอกจากนี้ได้ชี้ให้เห็นว่า ถึงแม้ปัจจุบันกล้องฟูลเฟรมได้มีขนาดเล็กลงอย่างมาก แต่กลับไม่สามารถทนทานต่อสภาพอากาศในสถานะการณ์ต่างๆ ในขณะที่ Olympus ทุ่มเทเวลาและความพยายามอย่างมากในการพัฒนาการทดสอบเพื่อให้กล้องไร้เทียมทาน
แม้ว่าจะมีแนวโน้มที่ Panasonic จะไปฟูลเฟรม แต่ก็ไม่เป็นปัญหาใดๆสำหรับ Olympus โดยที่จะยังพัฒนาแพลตฟอร์มควบคู่กล้องไร้กระจก ตั้งแต่ระดับเริ่มต้นจนถึงมืออาชีพ เพื่อให้ Micro Four Thirds มีทางเลือกที่ยอดเยี่ยมอย่างแท้จริงมากกว่าระบบอื่นๆ บนโลก