ขยี้ให้ตาย! พาไปดูรีวิว Sony A7III ของช่างภาพดังจาก National Geographic ดีแค่ไหนลองไปชม

หากใครที่เป็นคนชอบดูภาพของค่าย National Geographic แล้ว คงคุ้นชื่อ  Albert Dros  หนุ่มช่างภาพวัย 32 ปีคนนี้อยู่บ้าง ด้วยผลงานการถ่ายภาพที่ต่อเนื่องไม่ว่าจะลงหนังสือพิมพ์ นิตยสารและเว็บไซต์ดังแล้ว เขายังเคยได้รางวัลด้านการถ่ายภาพอย่าง  Dutch award winning  ในปี 2016 ที่ผ่านมาจนได้เป็นหนึ่งใแบรนด์แอมบาสเดอร์ค่ายกล้องดังอย่างโซนี่ระดับสากล และเมื่อโซนี่ออกเรือธงน้องใหม่ไฟแรง  Albert Dros จึงไม่พลาดที่โซนี่จะลากเขามารีวิวในสไตล์ของช่างภาพชาวดัตช์

โดยในตอนที่รีวิวนั้นที่เนเธอแลนด์บ้านเกิดของนาย Albert Dros อยู่ในช่วงอากาศหนาวติดลบจนทุกอย่างกลายเป็นสีขาวไปหมด ก่อนที่ช่างภาพไฟแรงจะเริ่มการรีวิวก็โพสถามสิ่งที่แฟนๆ อยากรู้เกี่ยวกล้องตัวใหม่ในสื่อสังคมโซเชี่ยลดังอย่าง Reddit  เพื่อจะรีวิวและตอบคำถามข้อสงสัยของสาวกโซนี่ไปในตัวทีเดียว ลองไปชมกันว่าเขามีความรู้สึกอย่างไรกับ Sony  A7III กัน

เจอครั้งแรกก็รักเลย

เมื่อกล้องมาอยู่ในมือผมครั้งแรกนั้น สิ่งหนึ่งที่ผมสังเกตเห็นว่าเจ้า A7III ในมือมีหน้าตาคล้าย A7RIII ของผมมากๆ จนบางทีก็คิดว่าไม่ใช่แค่หน้าตาเท่านั้นแต่ความรู้สึกตอนสัมผัสกล้องใหม่ตัวนี้เหมือนกำลังถือ A7RIII  ของผมเอง ซึ่งผมปลื้มใจมากๆ ที่ทางโซนี่ออกแบบเจ้าน้องใหม่ให้แตกต่างไปจากรุ่นพี่ในตระกูล A7 มากเพราะความรวดเร็วในการทำงานและฟังชั่น ทัชสกรีนและระบบเมนูที่ทำงานง่ายและรวดเร็ว  เบื้องต้นผมเริ่มการตั้งค่าต่างๆ ให้เหมือนกับกล้องตัวเก่าก่อนจะออกไปถ่ายแสงเช้ากัน

ไดนามิค เรนจ์ (Dynamic Range)

เป็นเรื่องที่สามารถสังเกตในขณะที่เราถ่ายภาพผมจึงใช้โหมด  single exposures เพื่อเช็คไดนามิก เรนจ์ของ A7III และเพื่อนใหม่คนนี้ก็สร้างความประทับใจให้ผมทันที โดยทางโซนี่แจ้งผมมาว่าไดนามิค เรนจ์ของกล้องรุ่นใหม่ตัวนี้จะอยู่ที่ 15 สตอป แต่เมื่อผมนำไปเปรียบเทียบกับ A7RIII ที่มีข้อดีในหลายเรื่องแต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะในบางครั้ง A7RIII  กล้องตัวเก่งของผมก็สร้าง noise ในโซนเงามากกว่า สวนทางกับ  A7III จะเก็บรายละเอียดไฮไลท์ได้ดีมากเวลาที่ผมไปทำภาพในคอม สรุปโดยรวมแล้วไดนามิค เรนจ์ของรุ่นใหม่ทำออกมาได้ประทับใจ

แบตเตอรี่

ผมขอกระโดดมาเรื่องที่ทุกคนลุ้นระทึกว่าทางโซนี่จะแก้ปัญหาเรื่องแบตเตอรี่ที่ทำงานได้ไม่นานมากนักหรือเปล่า เพราะปัญหาดังกล่าวกำลังกลายเป็นชื่อเสียงของค่ายโซนี่ไปแล้วว่า เรื่องแบตเตอรี่ของค่ายนี้นี่เข้าขั้นติดลบอย่างรุนแรง ส่วนตัวผมเองเวลาออกทำงานก็จะพกแบตฯ สำรองไว้ประมาณ 6 ก้อนทุกครั้ง แน่นอนว่าทางโซนี่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องนี้โดยมีการปรับปรุงแบตเตอรี่รุ่นใหม่ในรุ่น A9 แล้วค่อยๆ พัฒนาให้ดีขึ้นใน A7RIII และปรับปรุงจนมาถึงรุ่น A7III ถึงตอนนี้ผมกล้าบอกได้เลยว่า Sony มีพัฒนาการจากแบตฯ ยอดห่วยสู่แบตฯ ยอดเยี่ยมเลยทีเดียว ซึ่งจากประสบการณ์ของผมที่พกแบตฯ ไปมากกว่า 1 ก้อนต่อวันเป็นประจำในทริปถ่ายภาพแถวนอร์เวย์และไอซ์แลนด์ แต่สำหรับกล้องใหม่กลับโชว์ฟอร์มได้สวยงามกับ 1 ก้อนต่อ 1 วันในอุณหภูมิสุดโหดที่ -5 ถึง -10 องศา แน่นอนว่าโซนี่สร้างความประทับใจให้ผมมากๆ ที่โซนี่หลุดพ้นจากปัญหาพกแบตฯ หลายก้อน

ภาคสนาม

ด้วยความที่ผมเป็นช่างภาพสายแลนด์สเคปและวิธีการใช้กล้องของผมก็เหมือนกับ A7RIII ผมเลยลองฟังชั่นหลายตัวที่มีอยู่ในกล้องตัวใหม่ด้วยซึ่งฟังชั่นเหล่านี้ทำให้ผมทำงานไวขึ้น ถ้าเปรียบเทียบกับรุ่นเก่าแล้ว A7III เร็วกว่ารุ่นพี่มากทั้งการเปิดเครื่อง การถ่ายโอนลงการ์ดก็เร็ว ขณะเดียวกันด้านการโฟกัสที่ผมมักจะใช้ touch AF ตลอดเวลา ซึ่งทุกครั้งที่ผมเช็คความคมของภาพผมก็สามารถเลื่อนโฟกัสได้รวดเร็ว ซึ่งโดยปกติผมมักจะใช้ Auto Focus เพื่อให้ภาพของผมเองออกมาคมชัดแน่นอนว่ากล้องรุ่นใหม่สร้างความสนุกในการถ่ายรูปให้ผมดีมาก

ออโต้โฟกัส

ในการถ่ายภาพแลนด์สเคปแล้วสำหรับผมไม่ค่อยได้ใช้ ออโต้โฟกัส มากนัก แต่อย่างไรก็ตามผมได้ทดสอบดูบ้างและผลที่ออกมาถือว่าดีทั้งการทำงานและความแม่นยำ ซึ่งไม่ต้องแปลกใจในความสามารถเรื่องนี้เพราะทางโซนี่ไปเอาระบบโฟกัสของรุ่น A9 มาใช้และมีจุดโฟกัสให้ผู้ใช้ได้เลือกกดบนหน้าจอสบายๆ

ISO

กลับมาที่การถ่ายภาพตอนเย็น ผมได้พยายามดัน ISO ให้สูงขึ้นทั้งในการถ่ายภาพและวีดีโอ โดยค่าต่ำสุดจะอยู่ที 50 และสูงสุดจะอยู่ที่ 2 แสน ในการทดสอบผมเองได้ลองดัน ISO ไปที่ 2000 แต่ภาพที่ออกมายังคงความคมเปิดภาพใน Photoshop  และในบางภาพก็ลองปรับ ISO ให้สูงขึ้นไปถึง 12800 ซึ่งจะมี Noise ออกมาบ้างแต่ก็สามารถไปปรับลดในโปรแกรมได้โดยไม่เสียความคมชัดของแต่อย่างใด ถือว่าไดนามิค เรนจ์ของ A7III ทำได้ดีมากๆ

VDO

ผมเป็นคนหนึ่งที่ไม่ค่อยได้ใช้กล้องวีดีโอถ่ายมากนักแต่ก็พยายามถ่ายวีดีโอไว้บ้างโดยดัน ISO ให้สูงๆดู ซึ่งผลออกมามีคุณภาพเทียบเท่ากับ A7sII กล้องวีดีโอของค่ายเลยทีเดียว โดยในการทดสอบผมได้ลองจาก iso 3200 ถึง 102400

สรุป

เมื่อเปรียบเทียบกับราคา 2000 ดอลล่าห์กับกล่องอื่นในราคาที่ใกล้เคียงกันแล้วถือว่าคุ้มค่าตัวทีเดียวสำหรับค่าสินสอดของ A7III ผมขอสรุปข้อดีข้อเสียมาเป็นข้อๆ ตามนี้เลย

ข้อดี

  • ภาพรวมออกมาดีเกินหน้าเกินตากล้องรุ่นใกล้เคียงกัน
  • ไดนามิค เรนจ์สูง
  • การแสดงผลใน iSO สูงได้ดีทั้งรูปภาพและวีดีโอ
  • บอดี้ใหม่ที่มาพร้อมกับช่องใส่การ์ดสองช่อง เมนูใหม่และทุกสิ่งทุกอย่างที่เสริมเข้ามาช่วยให้การทำงานเร็วขึ้น
  • ออโต้โฟกัสอย่างโหด
  • ยอดแบตเตอรี่ที่แกร่งที่สุดในปฐพี
  • ทำงานได้รวดเร็วกว่ารุ่นพี่

ข้อพัง

ตามจริงตลอดเนื้อหาในบทความนี้ผมไม่มีข้อติอะไรเลยแต่ในกล้องรุ่นใหม่ๆของค่ายโซนี่ไม่ว่าจะเป็น A9 หรือ A7RIII โซนี่เหมือนจะลืมแอพฯ time-lapse app และ reflection app ซึ่งเป็นแอพฯ ที่ผมชื่นชอบมากที่สุด ถึงผมไม่ขอร้องถึงขั้นทำฟังชั่นแต่ได้โปรดช่วยใส่ลงในเมนูก็ยังดี ผมหวังว่าจะมีอัพเดตใส่มาในการปรับปรุงซอฟแวร์คราวหน้านะ

อ่านรีวิวของ Albert Drosแล้วคิดว่าต้องมีหลายคนคิดการใหญ่ย้ายค่ายมาอยู่โซนี่บ้างแล้ว ส่วนใครที่สนใจรุ่นนี้เตรียเงินไว้ดีๆรับรองว่าชิงกันฝุ่นตลบ

ที่มา : http://www.albertdros.com