เชื่อว่ามีหลายคนคิดว่าดราม่าเรื่องลิงเซลฟี่จบลงตั้งแต่ปีที่แล้ว หลังคู่กรณีหลายฝ่ายตกลงที่จะจบข้อพิพาทนี้ร่วมกันในปลายปี 2017 ที่ผ่านมา หลังจากขึ้นโรงขึ้นศาลเป็นรักสามเส้ามากว่า 7 ปี แต่สุดท้ายศาล the Ninth Circuit ของอเมริกาที่รัฐเวอจิเนียออกมากล่าวถึงกรณีนี้ว่า ศาลจำเป็นต้องตัดสินคดีนี้ให้จบแม้จะมีการเจรจากันเรียบร้อยแล้ว
จุดเริ่มต้นดราม่ารสลิงแสมเริ่มต้นในปี 2011เมื่อช่างภาพชาวฝรั่งเศสชื่อ David Slater เดินทางไปถ่ายภาพที่เมือง สุราเวสี ประเทศอินโดนีเซีย โดยในตอนนั้น Slater เดินทางเข้าป่าเพื่อเก็บภาพธรรมชาติและลืมกล้องตัวนึงไว้ในป่า ซึ่งขณะนั้นเองเจ้าลิง นารูโตะ ผ่านมาจึงหยิบมาเล่นตามประสาลิงซนและได้กดชัตเตอร์เซลฟี่หน้าตัวเองไว้เป็นที่ระทึกก่อนจะเดินจากไป ภายหลังที่ช่างภาพได้กล้องกลับมาก็พบภาพดังกล่าวและโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย สร้างปรากฏการณ์ครั้งใหญ่ให้โลกอย่างมากทั้งข่าวและการพูดถึงกันในวงกว้าง จนสุดท้ายเว็บไซต์ วิกิพีเดียก็จัดการคัดลอกรูปภาพไปลงเว็บไซต์ของตนเอง ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้เจ้าของภาพอย่างมากจนติดต่อไปเพื่อขอค่าลิขสิทธิ์ แต่ทางเว็บไซต์สารานุกรมก็ตอบกลับมาว่ารูปนี้ไม่มีลิขสิทธิ์เพราะเจ้าลิงนารุโตะเป็นคนถ่ายด้วยตนเอง ซึ่งตามกฎหมายแล้วสัตว์ไม่น่าจะถือลิขสิทธิ์งานของตนเองได้ จากวาทะเด็ดของวิกิทำให้ช่างภาพจัดการดำเนินคดี ในระหว่างการพิจารณาคดีนั้นเอง PETA องค์กรที่ทำงานด้านการอนุรักษ์และสิทธิของสัตว์ เป็นอีกตัวละครใหม่อีกตัวออกโรงร่วมแจมทวงลิขสิทธิ์ภาพให้เจ้าลิงด้วย ทำเอาคดีนี้ยืดยาวมาเรื่อยๆจนมากินเวลากว่า 7 ปี
ความสนุกสนานของดราม่าเรื่องนี้ก็วนเวียนอยู่ในชั่นศาลมาเรื่อยๆ ทั้งเรื่องที่สัตว์ไม่สามารถถือครองลิขสิทธิ์เพราะในอเมริกานั้นมองว่าสัตว์ไม่ใช่องค์กรหรือบุคคลที่จะสามารถตกลงทำธุรกรรมด้านสิทธ์ได้ แต่ทาง PETA เองก็พยายามดันเรื่องนี้ ส่วนช่างภาพ David Slater เจ้าของกล้องก็พยายามยืนยันว่ารูปนี้ต้องเป็นลิขสิทธิ์ของตนเพราะกล้องที่ใช้ถ่ายเป็นของตนเอง ส่วน Wiki ก็ใช้ช่องว่างทางกฎหมายยืนยันว่าการกระทำของตนถูกต้อง ท่ามกลางความชลมุลศึกสามฝ่ายที่ไม่มีใครยอมใคร ศาลจึงแนะนำให้คู่กรณีที่เกี่ยวข้องทั้งหมดนั่งโต๊ะเจรจาเพื่อหาทางออกให้เรื่องนี้จนสุดท้ายว่า ช่างภาพ Slater ยอมตกลงที่จะบริจาคเงิน 25 เปอร์เซ็นต์ที่ได้จากการขายรูปนี้ให้กับมูลนิธิที่ดูแลลิงแสมอย่างเจ้า นารูโตะ ซึ่งทาง PETA เองก็ออกมายืนยันว่าสัตว์ทุกตัวย่อมมีสิทธิที่จะถือครองลิขสิทธิ์ของตนเองได้เหมือนกับคน
แต่ข้อความดังกล่าวกลับสร้างความบันเทิงใหม่ขึ้นมาทันทีเพราะศาล The Ninth Circuit มองว่าการตกลงครั้งนี้กำลังจะขัดต่อกฎหมายเรื่องลิขสิทธิ์และจะสร้างข้อพิพาทอื่นๆตามมาดังนั้นกรณีเรื่องนี้ศาลจะจัดการไต่สวนอย่างเป็นทางการและตัดสินลงรายลักษณ์อักษรอีกที
ดราม่าลิงยังคงดำเนินต่อไป ใครเชียร์ฝั่งไหนยังต้องลุ้นไปยาวๆ