หลังจากรอกันมาเกือบปีในที่สุด Nikon ค่ายกล้องเบอร์ใหญ่ประกาศก้าวสู่ยุคไร้กระจกเรียบร้อย กับงานเปิดตัวเรือธง Z7 และ Z6 สองเรือธงใหม่วงการ Mirrorless Fullframe พร้อมกับ Z-Mount เพื่อรองรับเลนส์ใหม่ของค่ายที่มี Noct เลนส์รูรับแสงกว้างสุด 0.95 ออกมาเขย่าวงการและชูเรื่องราวประวัติศาสตร์กว่า 100 ปีและก้าวที่ยิ่งใหญ่ของ Nikon กับ N-Log รวมถึงฟีเจอร์วีดีโอที่พัฒนาจนถึงขีดสุด
Z7 มาพร้อมกับความละเอียด 45.7 ล้านพิคเซล กัน 5 แกน ที่กันภาพสั่นได้สูงถึง 5 สตอป ถ่ายภาพติดต่อกันได้ถึง 9 fps พร้อม Z-Mount ที่ดูใหญ่กว่า F-Mount ตัวเก่าแต่ยังคงคุณภาพ ความเฉียบคมที่ยังเป็นลายเซ็นของค่ายไว้ครบถ้วน ด้านฟีเจอร์วีดีโอรองรับ 4K 30p ทั้งยัง Output ออกมาระดับ 10 bit เลยทีเดียว
แม้หลายอย่างอาจจะมีคนแซวว่าหลายอย่างคล้ายกับ D850 แต่เรื่องกันสั่น 5 แกนและ hybrid autofocus system ที่มีจุดโฟกัสเยอะกว่า 493 จุด รวมไปถึงหน้าจอทัชสกรีน รูปร่างหน้าตาแปลกใหม่ทำให้เจ้าตัวนี้ดูจะมีภาษีดีกว่า ทั้งความกล้าหาญของ Nikon ที่ใช้ XQD มาเป็นการ์ดความจำหลักของกล้องทำเอาหลายคนซูฮกในความหาญกล้าเพราะในตลาดการ์ดความจำส่วนใหญ่จะวนเวียนอยู่กับ CF และ SD Card เต็มไปหมด ซึ่งดูเป็นก้าวสำคัญที่นิคอนอาจจะเป็นผู้นำในการทดลองสิ่งใหม่ๆ มาใช้การ์ดใหม่นี้ ต้องรอดูต่อไปว่านิคอนจะทำได้หรือไม่ ด้านแบตเตอรี่ 1 ก้อนสามารถถ่ายภาพได้ 330 ภาพ และมีแผนจะทำ Grip ออกจำหน่ายในอนาคตด้วย
สำหรับภาพเคลื่อนไหวของค่ายเหลืองถือเป็นจุดบอดที่หลายคนแซวจิกกันเป็นประจำถึงความเชี่ยวชาญในด้านนี้ แต่สำหรับซีรี่ย์ Z ที่ออกมาใหม่ Nikon หวังลบคำประมาทเหล่านี้ด้วยกันพัฒนา N-Log ออกมาได้สำเร็จพร้อมทั้งใส่ไฟล์วีดีโอระดับ 40K 30pและ 24p เข้าไปในกล้องทั้งสองรุ่น เมื่อใช้แบบเซนเซอร์ฟูลเฟรมและยังมี Super 35/DX crop of 1.5x ด้วย โดยระบบโฟกัสของ Z ทั้ง435 จุด มีระบบ phase-detect ช่วยตามวัตถุได้อย่างลื่นไหล และระบบ electronic VR ลดกันสั่นขณะถ่ายได้ด้วย
ด้านการเชื่อมต่อซีรี่ย์ Z ยังใช้ SnapBridge wireless system รวมถึง 802.11ac Wi-Fi และ Bluetooth สามารถส่งภาพชนิด jpg และ raw เข้าเครื่อง PC และสั่งงานผ่านสมาร์ทโฟนได้ด้วย ด้านราคาที่เคาะออกมาสนนราคาอยู่ที่ 3999 USD ออกขายปลายเดือนกันยายน
ยุคใหม่ของ Nikon
อาจจะมีใครหลายคนมองว่า Nikon ไม่ได้สร้างความแปลกใหม่ให้กับวงการกล้องถ่ายภาพมากเท่าไร แถมยังมีบางเรื่องที่ดูสวนกระแสพอสมควรโดยเฉพาะ Noct ที่ให้ F-stop มาโหดๆ 0.95 แต่กลับไม่ทำออโต้โฟกัส แต่มองในอีกมุมนึงนี่น่าจะเป็นโอกาสที่หาดูยากจากองค์กรที่อยู่มา 100 ปี ที่กล้าปรับเปลี่ยนตัวเองและรับเทคโนโลยีใหม่ๆ รวมถึงการแหกภาพลักษณ์ตัวเองจากที่เป็นกล้องถ่ายภาพมืออาชีพสู่การเอาดีด้านวีดีโอถึงขนาดออก N-log ของตัวเองได้ในที่สุด และยังมี Mount ใหม่ เลนส์ใหม่ที่สนับการถ่าย VDO ได้ ถือว่าการก้าวครั้งนี้ของ Nikon เป็นการชนะตัวเองก้าวข้ามอดีตและพัฒนาตนเองให้ทันโลก เป็นกำลังใจให้นิคอนสู้ต่อไป