Review  X-Pro 3 กล้องวินเทจหัวใจดิจิตอล และน่าใช้ประจำปี 2019

เรียกได้ว่าเป็นปีที่กล้องฟิล์มกลับมาโด่งดังเป็นที่นิยมทั้งในหมู่ช่างภาพและคนทั่วไปที่ต่างกระโดมาหาซื้อกล้องฟิล์มกันกระหน่ำจนราคาพุ่งโด่งไปไกล และในช่วงเวลาที่ทุกคนกำลังมุ่งสู่ฟิล์มอยู่นั้น ฟูจิฟิล์มเปิดตัวกล้อง X-Pro3 กล้องรุ่นใหญ่ดีไซด์วินเทจที่มาพร้อมกับแนวคิดของ Digital film เต็มรูปแบบทั้งในเรื่องของการใช้งานและสีภาพที่ถอดแบบจากฟิล์มดังๆของฟูจิ อย่าง Provia, Eterna และฟิล์มซิมูเลชั่นอื่นๆ ทั้งหมด 11 แบบด้วยกัน Fotoupdate มีโอกาสได้ใช้กล้องวินเทจหัวใจดิจิตอลรุ่นนี้ ว่ามีเรื่องไหนที่น่าสนใจและเป็นสเน่ห์ของกล้องตัวนี้บ้าง

ภาพจากกล้อง X-Pro3

Key feather

-26MP APS-C BSI CMOS sensor

-โครงสร้าง Titanium

-11 Film Simulation modes

-3.0″ Hidden 180° Tilting Touchscreen

-Hybrid 0.5x OVF with 3.69m-Dot OLED EVF

-4K video at up to 30p, 200Mbps

แนวคิดที่น่าสนใจ

กล้องถ่ายภาพหลายตัวมักจะมีแนวคิดหรือไอเดียบางอย่างติดมากับตัวกล้อง ผ่านฟังก์ชั่นต่างๆภายในกล้อง X-Pro3 เรียกได้ว่าเป็นกล้องหนึ่งในตลาดที่ผ่านการคิดมาค่อนข้างดี ซึ่งเข้าใจคนชอบถ่ายฟิล์มส่งผ่านมายังกล้องรุ่นนี้เต็มๆ ทั้งการซ่อนจอ LCD การเสริมจอขนาดสี่จัตุรัสไว้แสดงชนิดฟิล์มที่ใช้ คงต้องชมว่ากล้องรุ่นใหม่นี้เป็นผลิตผลที่ทางฟูจิศึกษาและผลิตออกมาได้ดี และยังหยิบกระแสฟิล์มมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้สูงสุดบนฐานที่ตนเองถือลิขสิทธิ์ฟิล์มดีๆไว้ในมือเยอะพอสมควร

สรุปอย่างรวบรัดคือการพาผู้ใช้งานได้เข้าใจความรู้สึกหรือฟีลลิ่งการใช้ฟิล์ กลับมาอยู่ในกล้องดิจิตอลได้อย่างเกือบสมบูรณ์ หากจะบกพร่องสักเรื่องคงขาดแต่เรื่องการใส่ฟิล์มและนำไปล้างที่ร้านแล็บฟิล์ม

ออกแบบมาให้นึกถึงฟิล์ม

จากแนวคิดที่วางแผนมาดีส่งต่อการออกแบบกล้องและการจัดวางไปในทิศทางเดียวกัน การวางปุ่มไดอัลที่คล้ายกับกล้องฟิล์มอย่างปุ่มไดอัล Speed shutter และ ISO ที่เหมือนกับกล้องฟิล์มมากจนเหมือนยกมาใส่ให้ใช้กัน ปุ่มชดเชยแสงและปรับโหมดโฟกัสที่ทำออกมาเหมือนกล้อง Rangefinder แต่ยังคงแนวคิดการใช้งานที่ง่าย ปรับการตั้งค่าได้สะดวกกับคนยุคดิจิตอล จอยสติ๊กที่มีการวางให้สามารถใช้งานง่าย

และช่องมองภาพที่สามารถปรับให้เป็นอิเล็กทรอนิกได้ง่ายเพียงเอาแนบแล้วขยับปุ่มด้านหน้าก็จบแล้ว ที่สนุกกว่านั้นคือช่องมองภาพยังสามารถแสดงภาพที่ถ่ายแล้วมาให้ด้วยทำให้ ผู้ใช้งานเปิดดูภาพได้ทันทีไม่ต้องมาเปิดดูจอหลังให้วุ่นวายและยังมีเซนเซอร์ที่ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพและมีความละเอียด 3.69m-Dot

ส่วนจอสี่เหลี่ยมด้านเท่าที่วางอยู่ข้างหลังจะเป็นจอที่แสดงชนิดฟิล์มและ ISO ที่ใช้ในปัจจุบัน เป็นกิมมิคดีๆให้ใครที่เคยถ่ายภาพกล้องฟิล์มรู้สึกนึกถึงวันวานมากแต่กล้องรุ่นนี้มีสีฟิล์ม 11 แบบให้เราเลือกใช้ได้สะดวกกว่าฟิล์ม 35มม. แถมยังให้สีไฟล์ที่แทบจะเหมือนฟิล์มถ้าไม่สังเกตให้ดี คงคิดว่าเป็นภาพจากฟิล์มไปแล้ว

แต่ด้วยความที่กล้องรุ่นนี้ยังเป็นดิจิตอลการมีจอ LCD ด้านหลังจึงเป็นสิ่งจำเป็น ทางฟูจิจึงออกไอเดียให้จอดังกล่าวซ่อนไว้ด้านหลังให้ผู้ใช้งานดูลำบาก เพื่อต้องการให้ผู้ใช้งานใส่ใจกับการจับจังหวะก่อนชัตเตอร์มากกว่ามานั่งคอยส่องรูปว่าดีพอหรือยัง เรียกว่าต้องการให้คนถ่ายภาพใส่ใจกับทุกช็อตที่กดชัตเตอร์มากกว่าการกดทิ้งๆแล้วค่อยมาเลือก

เป็นมากกว่ากล้องถ่ายภาพ

เดาว่าคงเป็นแผนการของทางฟูจิที่ต้องการให้กล้องถ่ายภาพมีความเป็นแฟชั่นอยู่ในตัว ซึ่งแนวคิดนี้มีมานานแล้วพอสมควร แต่ส่วนตัวรู้สึกว่า X-Pro3 เป็นไอเทมที่ผู้ชายสายวินเทจอยากพกกล้องหล่อน่าจะชื่นชอบ ขณะเดียวกันยังนำมาประกอบเป็นพรอพสวยๆให้ภาพของเราดูดีมีสไตล์ ส่วนตัวถูกเขียนเองในช่วงออกเดินถ่ายภาพนั้น คนผ่านไปผ่านมาต้องมาเหลียวหลังมองกันบ้าง วันไหนถ้าไม่ได้ถ่ายรูป สามารถสะพายไหล่หล่อๆ เดินอวดรอบเมืองก็จัดว่าดี

camera : X-Pro3 lens : 23mm setting : 1/160, f/4
film : classic chrome

Film simulation ทั้ง 11 แบบ

เรียกว่าเป็นลายเซ็นของฟูจิไปแล้วสำหรับฟีเจอร์ฟิล์มซิมูเลชั่นที่ X-Pro3 มีมากถึง 11 แบบ ซึ่งทั้ง 11 แบบมีสีฟิล์ม Provia ที่เป็นฟิล์มแบบสไลด์ซึ่งช่างภาพที่ต้องทำงานใหญ่ๆ นิยมใช้กัน ฟูจิเองจึงนำสีฟิล์มจาก Provia มาชุบชีวิตมาอยู่ในยุคดิจิตอลอีกครั้ง

มีฟิล์มให้เลือกเยอะแล้วผลลัพธ์ที่ออกมาจะสมจริงมากแค่ไหน เรื่องนี้ต้องยกย่องทางฟูจิที่พัฒนาฟีเจอร์นี้จนสามารถให้สีออกมาใกล้เคียงกับภาพที่ได้จากฟิล์มจริงๆ ซึ่งในงานเปิดตัวกล้องรุ่นนี้ยังมีการนำภาพฟิล์มมาเปรียบเทียบซึ่งภาพจากกล้อง X-Pro3 มีคุณภาพที่ดีมากๆ

ส่วนฟิล์มที่ตัวผู้เขียนชื่นชอบเป็นการส่วนตัวคือฟิล์ม Acros สีขาวดำที่ให้คอนทราสต์ที่ค่อนข้างจัดและให้ความคมบาดใจวัยรุ่นและclassic chrome ส่วนสีฟิล์มอื่นๆ ทำงานได้ดีและให้สีสวยงาม

reference https://www.slrlounge.com/

ช่องเสียบการ์ดสองใบ

เรื่องนี้ไม่ชมไม่อวยคงจะไม่ได้ ด้วยพฤติกรรมส่วนตัวของผู้เขียนที่ชอบถ่ายทั้งไฟล์ RAW และ JPG ไว้พร้อมกันและมักจะชอบแยกไฟล์ไว้คนละการ์ดทำให้การส่งงานหรือเลือกไฟล์ใส่โปรแกรม Lightroom ได้ง่ายและรูปไหนที่ดีอยู่แล้วก็สามารถนำไปใช้งานได้ทันที การมีช่องเสียบการ์ดสองใบช่วยให้ทำงานง่ายขึ้นไม่ต้องเปลี่ยนการ์ดบ่อยและจัดการไฟล์ได้สบายใจผู้ใช้งานมากขึ้น

ชาร์จเองง่ายผ่าน USB-C

กล้องขนาดใหญ่แต่ยังสามารถชาร์จจากแบตเตอรี่สำรองได้ ถือว่าเป็นสิ่งคนรุ่นใหม่ต้องการมากอยู่เช่นกันเพราะบางครั้งหลายคนไม่อยากจะเสียเงินซื้อแบตเตอรี่เพิ่มก็ใช้วิธีการนี้ก็สะดวกไปอีกแบบ

โฟกัสและการถ่ายภาพต่อเนื่อง

ในเรื่องโฟกัสมีระบบให้เลือกอยู่ 3 แบบด้วยกันทั้งแบบ S,C,M ในส่วนของ S และ M ขอเหมาทีเดียวว่าเป็นระบบพื้นฐานที่ทางฟูจิทำได้ดีอยู่แล้ว ส่วนโหมด C เป็นส่วนที่ตามติดวัตถุเมื่อมีการเคลื่อนที่นั้นจากที่ลองเล่นดูระบบตามวัตถุได้ดีแทบจะไม่มีให้เห็นว่าหลุดบ่อยแต่อย่างใด ในส่วนของการถ่ายภาพต่อเนื่องสามารถถ่ายต่อเนื่องมากถึง 11 ภาพ ซึ่งส่วนตัวมองว่า 11 ภาพต่อเนื่องนี่ถือว่าพอกับการใช้งานแล้วเยอะมากเกินไปคงเปลืองเมมโมรี่กันน่าดู

ปุ่ม Drive ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น

การจะเปลี่ยนโหมดปรับค่ากล้องหรือใช้โหมดพิเศษอย่าง  Multiple exposure ทำได้ง่ายด้วยการกดปุ่มDrive แล้วไปเลื่อนในช่องภาพก็เรียบร้อยแล้วไม่ต้องวุ่นวายโยกย้ายไปมาให้วุ่นวายยกกล้องขึ้นลงให้เสียเวลายิ่งใช้ไปสักพักยิ่งคุ้นมือ ชีวิตง่ายขึ้นเยอะมากๆ

ภาพจากฟีเจอร์ Multiple exposures
ภาพจากฟีเจอร์ Multiple exposures

Multiple exposures

โหมดที่คนใช้กล้องฟิล์มอย่าง Nikon FM2 ซึ่งช่างภาพเซเลบหลายคนใช้เทคนิคกันสนุกสนาน ซึ่งฟูจิเองก็เข้าใจมุมมองนี้ด้วยจึงออกฟีเจอร์นี้ให้ง่ายมากขึ้นทั้งยังสามารถย้อนกลับไปเริ่มใหม่ก็ทำได้ง่ายด้วย โดยไม่ต้องลุ้นเหมือนกล้องฟิล์ม พูดกันง่ายๆ ว่า ได้ภาพเหมือนฟิล์มแต่ไม่ต้องลุ้นหนักเท่าฟิล์ม

เหมาะกับใครบ้าง

แม้จะเป็นกล้องที่มีเซนเซอร์ APS-C แต่ด้วยวัสดุ ฟังก์ชั่นและรูปลักษณ์ที่มีสเน่ห์ทำให้กล้องรุ่นนี้เปิดกว้างกับผู้ใช้งานตั้งแต่มือใหม่จนถึงช่างภาพอาชีพมากทีเดียว ยิ่งทางสาย Street และท่องเที่ยวแล้วกลุ่มนี้เหมาะมากทีเดียว

เลนส์ที่อยากแนะนำ

ชมกันมาก็เยอะ มาถึงส่วนที่เป็นความชอบตัวผู้เขียนกันบ้าง ใครที่อยากจะหาเลนส์สบายๆ น้ำหนักไม่มากใช้ถ่ายรูปสบายๆเวลาเที่ยวได้ แนะนำเลนส์ระยะ 23 มม. เมื่อนำไปเทียบกับกล้องฟูลเฟรมจะเท่ากับ 35 มม. เป็นระยะที่ถ่ายบุคคลก็ได้ ถ่ายวิวก็พอได้

ราคาศูนย์ตอนนี้อยู่ที่ 59,990บาท(บอดี้)

คะแนน

9.5/10

ตัวอย่างภาพ