เปิดตัวไปแล้วกับกล้องเรือธงตัวใหม่ของ Sony a7R IV ที่มีบล็อกเกอร์ตัวท็อปหลายคนเริ่มปล่อยวีดีโอรีวิวออกมากันบ้างแล้ว Fotoupdate จะพาเพื่อนๆ มาลงรายละเอียดว่ากล้องตัวใหม่จากโซนี่รุ่นนี้มีอะไรน่าสนใจ มีสิ่งไหนที่พัฒนาและฟีเจอร์ไหนที่ยังคงเดิมกัน
1.ปรับปรุงระบบ AF
นอกเหนือจากการมีจุด AF มากขึ้นกว่ารุ่นก่อนแล้ว Sony ยังเพิ่มโหมดการติดตามที่ปรับปรุงให้ดีขึ้นใน a7R IV โดยกล้องจะติดตามวัตถุทันทีที่คุณกดปุ่มชัตเตอร์ลงครึ่งหนึ่งไม่ว่าจะเป็นการมองตาใบหน้าหรือวัตถุที่คุณเลือก สามารถทำได้ทุกอย่างในขณะที่ถ่ายภาพต่อเนื่อง 10 fps หรือถ่ายวิดีโอ นอกจากคน a7R IV ยังสามารถตรวจจับสัตว์ได้
สิ่งหนึ่งที่หลายคนคาดหวังจากกล้องระดับโปรคือการที่ระบบในกล้องมีฟังก์ชั่นที่ใช้ซ่อนระบบโหมด AF ที่ไม่ค่อยได้ใช้ และมีระบบ Tracking คุณภาพที่ให้เราได้ลองใช้
การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยจุดหนึ่งที่น่ายินดีที่จะเห็นคือตัวเลือกว่าจุดโฟกัสจะปรากฏเป็นสีขาวหรือสีแดง (แต่ในรุ่นก่อนจะเป็นสีเทา) และระบบการควบคุมรูรับแสงใน โหมด ‘Focus Priority ‘ ที่ช่วยให้กล้องปรับโฟกัสเมื่อเปิดรูรับแสงกว้างขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งเมื่อต้องถ่ายภาพที่ต้องใช้รูรับแสงแคบในสภาพแสงน้อยซึ่งกล้องสามารถทำงานออกมาได้ แต่สิ่งนี้ก็ทำให้เครื่องทำงานช้าลงและชัตเตอร์จะใช้เวลามากขึ้นเล็กน้อยเนื่องจากรูรับแสงยังคงต้องหยุดลงเมื่อคุณกดชัตเตอร์จนสุด
-
Multi-shot modes
Sony a7R IV มาพร้อมกับกับโหมด multi-shot high-res ระบบที่ผ่านการปรับปรุงให้สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้สูงถึง 16 ภาพ โดยกล้องจะขยับเซ็นเซอร์ทีละ 1/2 พิกเซลแต่ละครั้งโดยที่เอฟเฟกต์สุทธินั้นจะถ่ายสี่กลุ่มของสี่ภาพ: สี่ภาพเพื่อเติมช่องว่างสีที่เหลือโดยรูปแบบตัวกรองสีของไบเออร์ที่ถ่ายในสี่ตำแหน่งเพื่อเพิ่ม ความละเอียดเชิงพื้นที่โดยรวม หมายความว่ากล้องจะจับภาพที่มีความละเอียด 960MP เพื่อที่จะสร้างภาพสุดท้าย 240MP ที่มีข้อมูลเรื่องสีครบทุกพิคเซล รวมไปถึงข้อมูลโทนสี Noise ที่ได้จากการถ่ายภาพ a7R IV ยังคงเสนอความง่าย รวดเร็วและมี Bayer-cancelling mode มาให้เหมือนรุ่นก่อน ทั้งนี้ยังมี electronic shutter ไฟล์ Raw เชื่อมต่อแอพลิเคชั่นเช่นกัน
3.รูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไป
สิ่งแรกที่เราจะเห็นได้ทันทีคือการออกแบบและช่องมองภาพที่มีรายละเอียดมากขึ้น ซึ่งละเอียดถึง 5.76M-dot ถือว่าใกล้เคียงกับค่าย Panasonic S1/S1R
เรื่องรูปลักษณ์ที่เป็นเรื่องที่ชัดเจนมากในรุ่นนี้ที่มาพร้อมกับการยึดเกาะที่ลึกกว่าและมีนัยสำคัญยิ่งขึ้นแป้นหมุนด้านหลังที่ออกแบบใหม่บนแผ่นด้านบนของกล้องพร้อมกับปุ่ม AF-On และปุ่มจอยสติ๊กด้านหลัง ‘nub’ นอกจากนี้ยังมีการล็อคปุ่มหมุนชดเชยแสงเพื่อป้องกันการทำงานโดยไม่ตั้งใจ มันเป็นล็อคสลับเพื่อให้คุณสามารถปล่อยมันโผล่ขึ้นมาเมื่อคุณใช้กล้องแล้วล็อคลงเมื่อเก็บไว้ในกระเป๋าด้วยความมั่นใจว่าคุณจะไม่เรียกค่าตอบแทนพิเศษใด ๆ ในขณะที่คุณคว้า กล้องที่จะใช้มัน
เช่นเดียวกับ A7R III IV มีช่องเสียบการ์ดคู่ แต่ตอนนี้ทั้งคู่รองรับ UHS-II นอกจากนี้ยังมีพอร์ต USB-C ซึ่งคุณสามารถชาร์จหรือเชื่อมต่อกับพีซีได้
a7R IV เป็น Sony Alpha เครื่องแรกที่รับอินพุตเสียงดิจิตอล สิ่งนี้สามารถทำได้ผ่าน Multi-Interface Shoe รุ่นใหม่ (ชุดหมุดเชื่อมต่อที่ด้านหน้าของฮอทชู) สำหรับตอนนี้สามารถส่งมอบได้โดยปืนลูกซองภายนอกและอะแดปเตอร์ XLR ของ Sony ที่ได้รับการอัพเดตซึ่งมีตัวแปลงอนาล็อกเป็นดิจิตอลอยู่ในตัว
4.โครงสร้างเปลี่ยนไป
เช่นเดียวกับรุ่นก่อน ๆ a7R IV ทำมาจากแมกนีเซียมอัลลอยด์เป็นหลัก อย่างไรก็ตาม Sony กล่าวว่ามันช่วยป้องกันพวกฝุ่นและความชื้นได้ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนๆ มีปะเก็นโฟมรอบ ๆ ฝาแบตเตอรี่และขอบฝาการ์ดเพื่อป้องกันน้ำเข้า
ปลอกยางได้รับการออกแบบใหม่ด้วย: ตอนนี้พอร์ตมีขอบยางวางรอบตัวซึ่งเชื่อมต่อกับฝาปิดพอร์ต ซึ่งการออกแบบใหม่ครั้งนี้ทำให้เกิดเป็นทางที่ให้น้ำไหลผ่านกล้องโดยที่ไม่น้ำซึมเข้าเครื่องแปลกันตรงๆว่า น้ำไหลผ่านกล้องง่ายไม่มีรั่วซึมแม้เราอาจจะยังเรียกว่า labyrinth sealing แต่มันก็ยังดีขึ้นเห็นได้ชัด
Mark IV ใช้แบตเตอรี่ NP-FZ100 แบบเดียวกับที่เคยมีมาและสามารถจับคู่อายุการใช้งานแบตเตอรี่นัดต่อการชาร์จ 530 นัดเมื่อใช้ EVF การถ่ายภาพด้วยจอแอลซีดีด้านหลังเห็นการกระโดด 20 ครั้งต่อการชาร์จหนึ่งครั้งเมื่อเปรียบเทียบกับ a7R III ตอนนี้ได้คะแนน 670 ภาพที่น่านับถือ เช่นเคยตัวเลขเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องสะท้อนจำนวนภาพที่คุณจะได้รับ (ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเพิ่มจำนวนภาพเป็นสองเท่า) พวกเขาคิดว่าเป็นไม้หลาสำหรับเปรียบเทียบกล้อง
5.วีดีโอ
สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือความสามารถในการถ่ายวิดีโอของกล้องเปลี่ยนไปเพียงเล็กน้อย ในด้านบวก a7R IV สามารถถ่ายภาพได้ทั้ง 24p และ 30p จากความกว้างเต็มของเซ็นเซอร์ สิ่งนี้ไม่ได้ใช้การอ่านเต็มพิกเซล (พิกเซลหลายจุดถูกรวมเข้าด้วยกัน) แต่หมายความว่าคุณจะได้มุมมองแบบเต็มของมุมมองที่นำเสนอโดยเลนส์แม้จะครอบตัดจาก 3: 2 ลงไปถึง 16: 9 .
เช่นเดียวกับ a7R III คุณจะได้ภาพวิดีโอ 4K ที่ละเอียดยิ่งขึ้นโดยการถ่ายในโหมด Super 35 ข่าวดีก็คือตอนนี้ภาพ 24p นำมาจากวิดีโอ 6K (การสุ่มตัวอย่างมากถึง 1.5 เท่าในแต่ละมิติ) ข่าวดีไม่ดีคือตอนนี้โหมด ‘Super 35’ มีการครอบตัด 1.6x สำหรับ 24p และครอบตัด 1.8 เท่าสำหรับ 30p (เช่นครอบตัด 1.1x และครอบตัด 1.2 เท่าเทียบกับสิ่งที่คุณคาดหวัง) อย่างน้อยก็มีผลกระทบด้านลบทั้งในแง่ของการบรรลุมุมกว้างและคุณภาพของภาพ
ดังนั้นไม่เพียง แต่จะไม่มี 4K / 60p ใน a7R IV เท่านั้น แต่กล้องยังคงเป็นกล้องวิดีโอ 8 บิตอย่างเคร่งครัด ขณะนี้คู่แข่งส่วนใหญ่เสนอการจับหรือส่งออก 10 บิต: สิ่งที่ให้การสนับสนุนที่สำคัญในแง่ของความยืดหยุ่นในการแก้ไข Log footage ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่จะเห็นที่นี่
6.มีอะไรที่ไม่เปลี่ยน
เราผิดหวังเล็กน้อยที่เห็นงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ทำกับโครงสร้างเมนูของกล้อง มันยังคงคุณสมบัติน้อยมากในทางของป้ายบอกทางเพื่อช่วยปรับทิศทางคุณในเมนูและค้นหาวิธีการของคุณไปยังตัวเลือกที่คุณกำลังมองหา คุณมักจะต้องจดจำว่าการตั้งค่าอยู่ที่ใดซึ่งจะไม่เป็นเช่นนั้น อย่างน้อยรุ่นก่อนคุณสามารถสร้างแท็บ ‘เมนูของฉัน’ เพื่อจัดกลุ่มการตั้งค่าทั้งหมดที่คุณใช้บ่อยที่สุด
การปรับปรุงที่ชัดเจนประการหนึ่งคือความสามารถในการกำหนดเมนู Fn ที่แตกต่างกันสำหรับภาพนิ่งและสำหรับการถ่ายวิดีโอ ถึงอย่างนั้นเมนู Fn ก็ยังไม่สามารถใช้งานได้ด้วยการสัมผัสซึ่งยังจับเราได้สองสามครั้งแรกที่เราหยิบกล้องขึ้นมาส่วนหนึ่งเป็นเพราะเมนู Fn ดูเหมือนจะเป็นชุดของปุ่มที่รอการกด แต่ส่วนใหญ่เป็นเพราะ นี่คือการทำงานของกล้องที่ทันสมัย
นอกจากนี้ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงในด้านของสิ่งต่าง ๆ กล้องมี Raw ที่ไม่บีบอัด 14 บิต (นั่นคือ ’15 stop of DR ‘รูปที่ Sony กำลังโฆษณาด้วยการลดขนาดภาพ 8MP) หรือ Raws ที่ถูกบีบอัดซึ่งใช้การบีบอัดที่อาจทำลายล้างของ Sony ยังไม่มีตัวเลือกการบีบอัดข้อมูลที่สูญหายหรือสูญหาย
ฟังก์ชั่นอื่น ๆ ที่คู่แข่งของ Sony เสนอให้ แต่ที่นี่หายไปก็คือความสามารถในการประมวลผลไฟล์ Raw ของกล้องในกล้อง นี่ไม่ใช่คุณสมบัติที่ทุกคนต้องการ แต่มีหลายครั้งที่จะช่วยให้สามารถลองใช้การตั้งค่าสีหรือความคมชัดที่แตกต่างกับไฟล์ก่อนที่จะส่งออก
ถือว่าเป็นเรื่องน่ารู้ของกล้อง A7R IV ที่ผู้อ่านสามารถนำไปพิจารณาร่วมกับบทความรีวิว สำหรับใครที่อ่านจบแล้วตกหลุมรักเลยก็เตรียมเงินในกระเป๋าไว้ได้เลย