Gopro เริ่มเห็นสัญญาณดี หลังมีรายได้เพิ่มขึ้น 3%

หลังจากหกล้มพร้อมเจอวิบากกรรมมาเป็นปีจนต้องปรับแผนงานทั้งลดเงินเดือนตัวเอง ยุบแผนกโดรนและเชิญพนักงานออกไปกว่า 300 ตำแหน่งรวมไปถึงการขายสิทธิเข้าถึงเทคโนโลยีที่โกโปร มี โดยหวังจะหารายได้เข้ามาใช้จ่ายในบริษัทให้เดินหน้าต่อไปได้และยังมีข่าวออกมาตลอดเวลาว่าเจ้าของบริษัทติดป้ายประกาศขาย โดยบริษัทจีน Xiaomi เป็นผู้สนใจเข้ามาซื้อแต่ก็ไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด แต่โกโปรเองก็ออกสินค้าใหม่ออกมาโดยลดราคากล้อง Gopro ตัวใหม่มาอยู่ในหลักพันบาทหวังเข้าสู้สินค้าจีนที่ราคาถูกกว่า

หลังผ่านไป 1 ไตรมาสปี 2018 โกโปรเปิดเผยข่าวดีในรอบเกือบสองปีให้แฟนๆได้ชื่นใจกันบ้างกับผลประกอบการณ์เติบโตขึ้น 3% จากปีที่แล้วคิดเป็นเงินอยู่ประมาณ 202 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยหลายฝ่ายและ Nick Woodman และผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายต่างเห็นพ้องต้องกันว่าการเติบโตครั้งนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นของสัญญาณดีๆที่จะทำมาในอนาคตแน่นอนและอาจจะเติบโตมากขึ้นในไตรมาสที่สอง

จากข้อมูลที่ทาง CEO Nick Woodmanแจงรายละเอียดไว้ว่า HERO5 Black และ HERO6 Black ขายในช่วงไตรมาสแรกนั้นมียอดซื้อดีเท่ากับ Gopro Hero ตัวใหม่ที่กดราคาลงมาที่ 200   ดอลลาร์สหรัฐ เป็นราคาที่ถูกที่สุดในตระกูล Hero ซึ่งเป็นไปตามที่ CEO เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่าจะออกสินค้าที่ใครๆก็สามารถหาซื้อมาใช้ได้และเราเชื่อว่าจะสามารถพิสูจน์ให้พาทเนอร์ขายปลีกอย่าง Walmart และ Target มั่นใจในตัวเราและนำเข้ามาขายในไตรมาสที่สองและโปรโมชั่นกระตุ้นยอดที่จัดในอเมริกาเพื่อกระตุ้นยอดขายซึ่งน่าจะมีส่วนช่วยให้ยอดขายดีขึ้น

แม้รายได้จะเพิ่มขึ้นจากเดิมแต่ถ้ามามองย้อนไปจะพบว่ารายได้ของพวกเขาลดลงปีต่อปีอยู่ที่ 7% จากรายได้ที่ลดลงนั้นทำให้พวกเขาต้องปรับโครงสร้างกันหลายรอบเพื่อต่อสู้ประเด็นทางการเงินให้มีสภาพที่ดีขึ้น โดยจากการประกาศล่าสุด Gopro สามารถลดรายจ่ายลงไปประมาณ 24% ต่อปี

แม้รายได้จะตกลงไปเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีที่แล้วแต่ในอเมริกาแล้ว Gopro ก็ยังเป็นผู้สมัครที่มีความสามารถที่จะขึ้นมาเป็นเจ้าบัลลังก์ Action Camera ในอเมริกา โดยกินส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ประมาณ 85-95% ในเมืองลุงแซมไว้เหนียวแน่น โดย CEO Nick Woodman ออกมาคุยอย่างอารมณ์ดีว่า “เป็นสัญญาณที่ดีมากในไตรมาสแรกของปีที่ราคาของ Gopro อยู่ในเกณฑ์ที่ผู้ซื้อสามารถซื้อได้”

แม้จะมีข่าวที่ดีแต่ทางโกโปรเองต้องพยายามดิ้นรนกันต่อไปถ้าหวังจะจะให้บริษัทกลับมาอยู่ในสภาพสมบูรณ์และผ่านพ้นวิกฤตทางการเงินได้ ซึ่งมาลุ้นต่อในไตรมาสที่สองว่าพวกเขาจะสร้างกำไรเพิ่มขึ้นจนเลขหุ้นเป็นสีเขียวได้หรือไม่