ถ้าพูดถึงเซนเซอร์รับภาพ หลายคนคงต้องนึกถึงโซนี่ที่แทบจะผูกขาดผู้ผลิตเซนเซอร์รับภาพไปแล้ว และดูจะยิ่งได้ใจเข้าไปใหญ่หลังมีข่าว Panasonic ถอนตัวออกจากตลาดและขายต่อให้กับบริษัทจากไต้หวันมาดำเนินธุรกิจผลิตเซนเซอร์ภาพต่อ เรียกว่าปลาใหญ่ออกไปแต่ปลาตัวใหม่เข้ามาแทน
ข่าวการขายครั้งนี้มีรายงานจากสื่อใหญ่ Nikkei Asian Review รายงานว่า Panasonic ตกลงปลงใจที่จะขายธุรกิจ semiconductor ให้กับบริษัท Nuvoton Technology จากไต้หวัน สอดคล้องกับการรายงานของ Reuters ที่รายงานว่ามูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 250 ล้านดอลลาร์
เล่าย้อนความเดิมเส้นทางการเข้าสู่เส้นทางผู้ผลิตเซนเซอร์ของ Panasonic นั้นเริ่มเข้าสู่วงการเมื่อปี 1952 แต่ชีวิตการดำเนินธุรกิจของพวกเขาไม่ราบรื่นมากนัก เนื่องจากคู่แข่งรายใหญ่อย่าง Sony ที่เข้ามาตีตลาด หลายฝ่ายคาดว่าส่วนแบ่งการตลาดของโซนี่น่าจะมากถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ขึ้นไป และเซนเซอร์กล้องสำหรับสมาร์ทโฟนจะมากถึง 70 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป
จากกรณีการขายธุรกิจเซนเซอร์ของทางพานาโซนิคครั้งนี้ มีการบอกใบ้มาตั้งแต่ต้นปีแล้วโดย TowerJazz คู่ธุรกิจพานาโซนิคกล่าวถึงความท้าทายและคู่แข่งรายอื่นที่จะเข้ามาแข่งขันกับโซนี่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ในเวลานั้นหลายฝ่ายก็ไม่คาดคิดว่าการพูดคุยในวันนั้นเป็นเรื่องเฉลยที่เกิดขึ้นจริงในเวลานี้
รายงานข่าวล่าสุดจากสำนักข่าว Nikkei รายงานว่าจากงบปีงบการเงินปีที่ผ่านมาพบว่า Panasonic Semiconductor สูญเสียรายได้ไป 215 ล้านดอลลาร์ และมีรายได้ 842 ล้านดอลลาร์ ในช่วงแรกทางบริษัทพยายามปรับปรุงธุรกิจให้มีความสามารถการแข่งขันและดำเนินธุรกิจต่อไปได้ แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจขายออกไป ท่ามกลางสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งสงครามทางเศรษฐกิจดังกล่าวเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำงานการปรับปรุงธุรกิจมีความยากลำบาก
เมื่อการปรับปรุงธุรกิจไม่สำเร็จทำให้การขายกิจการให้กับ Nuvoton จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ซึ่งช่วงเวลานี้เป็นห้วงเวลาที่ตลาดมีการแข่งขันกันดุเดือด ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวยังรวมไปถึงกิจการ TowerJazz Panasonic Semiconductor (ไม่รวมสัดส่วนการถือหุ้นของ Tower) และคาดว่าจะปิดภายในเดือนมิถุนายน 2563
ส่วนพานาโซนิคเองพึ่งจะเปิดตัวกล้องฟูลเฟรม mirrorless รุ่น S1R และ S1 ไป โดยรวมแล้วทางบริษัทพยายามจะตัดธุรกิจที่ไม่สามารถสร้างรายได้ออกไปในไม่กี่ปีข้างหน้าและมุ่งมั่นกับธุรกิจที่ให้กำไรอย่าง แบตเตอรี่และเทคโนโลยีรถยนตร์