ช่วงนี้ใครที่ตามข่าวสารอาจจะพอทราบกันบ้างแล้วว่ามีการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบครั้งใหญ่ของปีที่ อำเภอบางแสน จังหวัดชลบุรี ภายใต้งานที่ชื่อว่า บางแสนกรังด์ปรีซ์ ( Bangsaen Grandprix) ตั้งแต่วันที่ 11-15 กรกฎาคมที่ผ่านมา ครั้งนี้ทีมงาน foto update มีโอกาสได้เข้าร่วมไปถ่ายภาพรถสุดเท่ห์ที่จะมาเร่งความเร็วเต็มสปีดให้ดังสนั่นทั่วหาดบางแสน ทีมงานจึงไม่พลาดที่จะพา Tamron SP 150-600mm F/5-6.3 Di VC USD G2 เพื่อนรุ่นใหญ่น้ำหนักเกือบ 2 กิโลกรัมออกไปท้าพิสูจน์ความไวของโฟกัสว่าจะสู้เหล่าสิงห์สนามได้หรือไม่
Tamron SP 150-600mm F/5-6.3 Di VC USD G2 เป็นรุ่นที่พัฒนาขึ้นจากรุ่นแรกให้มีน้ำหนักที่เบาขึ้นกว่าเดิม รูปทรงที่ดูดี ภายใต้คอนเซปต์ “Human Touch”
ในซีรี่ย์เลนส์ SP models ที่ต้องการให้เลนส์มีรูปลักษณ์ที่ดูดี และดูเป็นเนื้อเดียวกันรวมถึงความทันสมัยและระบบโฟกัสที่เร็วขึ้นระดับปีศาจ โดยค่ายแทมรอนจัดเลนส์ตัวนี้จัดให้เหมาะสมกับกล้องฟูลเฟรมทั้งค่ายแคนนอน นิคอน ตัวบอดี้ทำจากเหล็กทำให้ตัวเลนส์มีความทนทานและภาพลักษณ์ที่ดูเท่ห์พร้อมกับการใช้งานกลางแดดหรือสถานการณ์ที่ต้องบุกลุยในสายถ่ายนก กีฬาหรือสัตว์ป่า โดยเลนส์ตัวนี้จะมาพร้อมกับปุ่มฟังก์ชั่นต่างอย่าง VC ,Lock, focus limiter และปุ่มอื่นๆ ตามมาตรฐานเลนส์ซูมเทเลขนาดใหญ่ที่หลายค่ายมี โดยเจ้าเลนส์ตัวนี้มาพร้อมน้ำหนัก 1,990 กรัม สำหรับ Nikon และ canon อยู่ที่ 2,010 กรัมเท่านั้น จึงถือว่าเป็นเลนส์ที่ช่างภาพแรงน้อยหรือการถ่ายภาพที่ต้องใช้เวลานานควรหาขาตั้งเดี่ยวหรือสามขามาใช้จะช่วยให้การถ่ายภาพสบายมากขึ้น เลนส์ตัวนี้ทางค่ายใส่แผ่นไดอะเฟรมมา 9 ใบ หน้าเลนส์กว้าง 95 มิลลิเมตร ค่ารูรับแสงอยู่ที่ 5-6.3 โดยยิ่งซูมมากเท่าไรค่ารูรับแสงจะแคบลงไปด้วย ภายในเลนส์มีส่วนประกอบอยู่ 21 ชิ้นแบ่งเป็น 13 กลุ่ม โดยของที่มาพร้อมเลนส์มี 3 ชิ้นด้วยกัน ทั้ง ฮู้ดที่ทำจากพลาสติกเนื้อดีซึ่งช่วยบังแสงและไม่ทำให้เลนส์หนักขึ้น เวลาใช้งานในสนาม Lens caps และ ถุงใส่เลนส์อย่างดี
จากการที่ได้ใช้งานตลอดหนึ่งวันกลางแดดร้อนที่มีลมโชยกลิ่นอายเค็มๆ ของหาดบางแสนที่อบอวลตลอดการแข่งขันที่มีทั้งรถซูเปอร์คาร์ รถขนาดเล็กอีโคคาร์ รวมไปถึงรถกระบะที่ต่างอัดความเร็วมิดไมล์จัดเต็มทุกโค้ง เจ้า Tamron SP 150-600mm F/5-6.3 Di VC USD G2 สามารถจับรถแข่งได้แม่นยำยิ่งใช้โหมดโฟกัสแบบตามติดวัตถุแล้วละก็ บอกได้เลยว่าแทบไม่มีหลุดแต่รถหลุดเฟรมนั้นอีกเรื่อง โดยทางทีมงานใช้ขาตั้ง monopod ค่าย Sirui รุ่น P204RS เป็นตัวช่วยให้การตั้งกล้องรอถ่ายรถที่จะวนมา ณ จุดนัดพบ ซึ่งอาจจะใช้เวลาประมาณ 2-3 นาที รวมถึงการที่ทีมงานเป็นทีมงานตัวเล็กและมักจะชอบเปลี่ยนมุมถ่ายตลอดวัน ทำให้การแบกกล้องเดินทำให้บอกได้เลยว่าร่างกายแกร่งอย่างริถือมือเดียว ซึ่งน้ำหนักทั้งหมดหลังรวมกล้อง เลนส์และขาตั้งแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 4-5 กิโลกรัม อาจจะทำให้ช่างภาพตัวเล็กลำบากกับการเคลื่อนย้ายเล็กน้อย แต่ถ้าหุ่นดีแข็งแรงเชื่อว่าไร้ปัญหา ด้านโฟกัสที่สามารถทำงานได้รวดเร็ว ส่วนเรื่องระยะซูมที่ต้องบอกว่าถ่ายรูปในสนามได้สบายๆ สามารถเก็บภาพรถแบบเต็มเฟรม หรือจะซูมออกมาเก็บแวดล้อมรอบคันได้ไม่มีขัดเขิน ส่วนการใช้เลนส์นี้แพนกล้องถ่ายแนะนำต้องกะระยะดีๆเพราะช่วงเลนส์ที่มากจะขัดกับสนามและจุดยืนที่ไม่เอื้ออำนวยมากนัก ซึ่งภาพที่ออกมาก็ถูกใช้อย่างมาก โดยทางทีมงานใช้เลนส์ Tamron SP 150-600mm F/5-6.3 Di VC USD G2 บนกล้องฟูลเฟรม D810 ภาพที่ออกมาจึงคมชัดมากทีเดียว
ส่วนค่ารูรับแสงที่ต้องระวังเพราะบางคนอาจจะเคยชินกับค่า F 5 -6.3 ก่อนกดชัตเตอร์จึงควรระมัดระวังเรื่องภาพที่อาจจะมืดหรือสว่างเกินไปเนื่องจากค่ารูรับแสงที่เปลี่ยนแปลงตามระยะซูม ซึ่งแน่นอนว่าการถ่ายรถแข่งแบบนี้ความเร็วชัตเตอร์และการโฟกัสเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก ซึ่งถ้าผู้ถ่ายควบคุมและเข้าใจหลักการพื้นฐานจะสามารถถ่ายรถแข่งได้สบายๆ ไร้รอยต่อซึ่งราคาเลนส์ประมาณ 4 หมื่นปลายนี้ถือว่าคุ้มค่ามากๆ โดยเลนส์มีการเคลือบสารแสงแฟร์ eBAND, BBAR,และ Fluorine Coatings ทำให้ภาพที่ออกมาคมดุสมชื่อแทมรอนอย่างแท้จริง
ใครที่สนใจหรือชอบถ่ายภาพแนวกีฬา สัตว์ป่าละก็เลนส์ตัวนี้ถือว่าตอบโจทย์ความมันส์ในการถ่ายภาพอย่างแน่นอนแถมราคาที่ขายในตลาดก็ไม่ได้แพงจนเอื้อมไม่ถึง ใครได้ลองใช้รับรองว่าถูกใจในความคมและความไวแน่นอน
สุดท้ายขอขอบคุณทีมงานจัดการแข่งขัน Bangsaen Grandprix ที่อนุญาตให้เข้าไปเก็บภาพบรรยากาศการแข่งขัน สำหรับใครที่ชื่นชอบงานแข่งรถลองติดตามเขาได้ที่เพจ ThailandSuperSeries จะได้ชมรูปสวยๆ และข่าวสารที่น่าสนใจมากมาย
คะแนน 9/10