ตั้งแต่เกิดการระเบิดของแบตเตอรี่สมาร์ทโฟนยี่ห้อหนึ่ง ทำให้ผู้คนต่างรู้สึกหวาดระแวงเกี่ยวกับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนเมื่ออยู่บนเครื่อง (อันที่จริงการเสียชีวิตจากเครื่องบินถูกฟ้าผ่ามีความเสี่ยงสูงกว่าการระเบิดของแบตเตอรี่อีกนะครับ)

Transportation Security Administration (TSA) หรือ หน่วยงานรักษาความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งสหรัฐอเมริกา จึงได้ระบุข้อกำหนดไว้ดังนี้

แบตเตอรี่ AA และ AAA

แบตเตอรี่มาตรฐาน AA และ AAA ไม่มีข้อจำกัดในเรื่องเหล่านี้ สามารถนำขึ้นเครื่องได้ตามต้องการ แต่จำเป็นต้องเก็บไว้ในบรรจุภัณฑ์เดิมเท่านั้น

แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน

ในแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแต่ละก้อนนั้น มีช่องที่คั่นด้วยพลาสติกบางๆกันขั้วไฟบวก-ลบ หากว่าเกิดการแตะกันคือสาเหตุที่ทำให้เกิดการระเบิด ซึ่งโอกาสเกิดนั้นเป็นไปได้ยากมาก อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ส่วนใหญ่ของคุณมีแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนอยู่ ซึ่งรวมถึงสมาร์ทโฟน, แล็ปท็อป, แท็บเล็ต, กล้องถ่ายรูป, และแฟลช โดยตามตามข้อกำหนด TSA สามารถนำขึ้นเครื่องได้ โดยแบตเตอรี่ต้องกำลังไฟต่ำกว่า 100 วัตต์ชั่วโมง (Wh) และผ่านด่านตรวจสอบเสียก่อน

แบตเตอรี่สำรอง

เหมือนกับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน คือ แบตเตอรี่ต้องกำลังไฟต่ำกว่า 100 วัตต์ชั่วโมง และห้ามโหลดใต้เครื่อง และถ้าหากคุณมีแบตเตอรี่จำนวนมากพกพาติดตัวไป เนื่องจากไม่มีข้อจำกัดเรื่องน้ำหนัก ดังนั้นคุณสามารถพกติดตัวได้มากเท่าที่คุณต้องการ เพียงแค่ต้องกำลังไฟน้อยกว่า 100 วัตต์ชั่วโมง

แบตเตอรี่ขนาดกำลังไฟมากกว่า 100 วัตต์ชั่วโมง

จริงๆแล้วคุณสามารถนำแบตเตอรี่ขนาดกำลังไฟมากกว่า 100 วัตต์ชั่วโมง ติดตัวไปพร้อมกับคุณได้ แต่ต้องมีขนาดเล็กกว่า 160 วัตต์ต่อชั่วโมง โดยไม่สามารถโหลดใต้เครื่องได้เช่นกัน และต้องทำเอกสารระบุ ให้การอนุมัติอีกด้วย

เตรียมแบตเตอรี่ของคุณก่อนเดินทาง

หากคุณเดินทางกับแบตเตอรี่ ให้ปิดขั้วไฟฟ้าด้วยเทปพันสายไฟฟ้า คุณสามารถใส่แบตเตอรี่ลงในกล่องเดิมของผลิตภัณฑ์ ซึ่งมักจะมีรายละเอียดประกาศที่ด้านข้างว่าควรปฏิบัติอย่างไร อีกทางเลือกหนึ่งคือการใส่แบตเตอรี่ลงในถุงซิปล็อคพลาสติก แต่คุณต้องใส่แบตเตอรี่แต่ละก้อนแยกกระเป๋ากัน

วิธีคำนวณวัตต์ – ชั่วโมง

ในการคำนวณวัตต์ชั่วโมงแบตเตอรี่ให้ใช้สูตรต่อไปนี้: mAh × V ÷ 1000 = Wh

 

หากมีข้อสงสัยสามารถดูได้จากวีดีโอข้างล่างนี้

ที่มา : petapixel