ไอเดียเด็ด เปลี่ยนรถซูเปอร์คาร์ให้เป็น Camera Car สุด Fast

หากใครเคยดูเบื้อหลังภาพยนตร์อาจจะเห็นรถติดกล้องวิ่งไล่ตามตัวละครเวลาถ่ายในฉากซิ่งรถบนถนน  หลายกองถ่ายก็ใช้รถกระบะหรือรถเก๋งตามแต่กองถ่ายจะใช้กัน แต่วันนี้มีกองถ่ายไฮโซนำรถซูเปอร์คาร์มาทำเป็น Camera Car สุดจ๊าบที่ใครเห็นต้องชมในความเท่ห์และความเร็วของคันนี้ ถ้านำไปใช้แล้วอาจมีวิ่งเลยกองถ่ายไปเลยก็ได้ ไอเดียสุดอลังการครั้งนี้เกิดจากทีม Incline Dynamic Outlet ในระหว่างการถ่ายทำภาพยนตร์ภัยธรรมชาติเรื่อง The Deadliest Catch โดยทางทีมงานมีความคิดตรงกันว่าอยากให้กล้องติดกับรถที่เร็วกว่าที่เป็นอยู่ปัจจุบัน ทีมงานจึงตัดสินใจลองหารถซูเปอร์คาร์มาทดสอบเพื่อเติมความเร็วให้สามารถ่ายสะดวกทุกสถานการณ์ ไม่ว่าวิ่งตามรถเร็วแค่ไหน “เรื่องมันน่าสนุกนะเมื่อเราเอาเงินกว่า 1600 ปอนด์ไปลงกับ SUV และพยายามเล่น Track บนรถที่ได้ชื่อว่าเร็วที่สุดในโลก ที่เร่งไปได้ 60 ไมล์ต่อชั่วโมง มันแจ๋วแค่ไหนละ”  Nathan Garofalos ให้สัมภาษณ์กับ เว็บไซต์ Petapixel บนสถานที่ถ่ายทำบนเกาะระยะทางยาวกว่า 4 ไมล์ ทีมงานแสบตัดสินใจที่จะใส่กล้องวีดีโอไว้บนลัมโบร์กินี รถโคตรซูเปอร์คาร์และผลที่ออกมาก็น่าพอใจมากทีเดียว ช่วงแรกทีมงานนำรถ Audii R8 และอีกหลายๆรุ่นไปลองทดสอบ จนสุดท้ายพวกมาตกลงปลงใจกับ Lamborghini Huracán รสสายซิ่งที่มากับความเตี้ยกว่าชาวบ้านอยู่ ¾ ที่จะช่วยให้ลู่ลมและไม่ต้านแรงโน้มถ่วงมากนักทำให้รถกระทิงดุสามารถทำความเร็วได้มากยิ่งขึ้น ด้านการติดตั้งทีมงานต้องใช้เวลากว่า 1 เดือนและเงินทุนกว่า 500,000 ดอลลาร์ สำหรับการติดตั้งกล้องลงบนรถสุดไฮโซ … Read more

Sony A6XXX ที่ชาวเน็ตต้องการ หน้าตาจะเป็นอย่างไร ไปดูกัน

ผู้ใช้ทวิตเตอร์นามว่า “Mario Crespi” ได้รวบรวม ความคิดเห็น ความต้องการ จากผู้ติดตามเว็บไซต์ sonyalpharumors บวกกับไอเดียของตัวเองแล้วสร้างเป็นภาพ render ของกล้อง Sony A6xxx ขึ้นมา Mario Crespi กล่าวว่า “แนวคิดใหม่สำหรับกล้องนี้คือ สามารถติดตั้งโปรแกรมได้เต็มรูปแบบพร้อมระบบควบคุมแบบดิจิตอล trackpad คือสิ่งที่เพิ่มเข้ามาแทนที่จอยสติ๊กแบบเดิม ให้ใช้งานระบบสัมผัสแบบเต็มที่ นอกจากนี้ยังสามารถคลิกที่มุมได้ เช่น กำหนดโฟกัสไปที่มุมบนซ้ายให้กดมุมนั้นและตอนนี้คุณสามารถเปลี่ยนโฟกัสด้วยtrackpadได้  มีกดปุ่ม White Balance ที่ตั้งโปรแกรมไว้ที่มุมล่างและคุณสามารถเปลี่ยน White Balance ได้ทันที” ไม่มีช่อง Hot Shoe ใช้งานแฟลชไร้สายเต็มระบบ ทำให้ติดตั้งอุปกรณ์ถ่ายทำภาพยนตร์ได้ง่าย หน้าจอออกแบบมาขนาด 16:9 เหมาะกับการถ่ายภาพยนตร์ที่สุด ใส่วงแหวนปรับค่ามาถึง 4 อย่าง เรียกว่าตั้งค่าได้โดยไม่ต้องกดเข้าเมนูเลย ล้ำสุดๆ ชาวโซนี่คิดว่าอย่างไรกันบ้างครับ ถ้ามีกล้องแบบนี้ผลิตออกมาจะเป็นอย่างไรบ้าง ที่มา : sonyalpharumour    

LEX แต่ใจไม่เล็ก กล้องฟิล์ม DIY สาย Mount Sony ทำเองขายเอง

คงไม่มีใครคิดว่าจะมีคนทำกล้องฟิล์มที่สามารถใช้เลนส์ค่ายโซนี่ E-Mount ออกมา จนในที่สุด นาย Alexander Gee สร้างกล้องฟิล์มตัวแรกที่สามารถใช้เลนส์ ดิจิตอลแรงๆ ของโซนี่ออกมาได้สำเร็จ หลังจากเขาประสบกับความรำคาญใจที่กล้องฟิล์มตัวโปรดไม่สามารถใช้เลนส์โซนี่ไม่ได้ เรียกเสียงชื่นชมเต็มกาละมังไปหลายใบกับโปรเจคแสบแหกจักรวาลโซนี่ไปเต็มๆ กับกล้องฟิล์มโปรโตไทป์นามจิ๋ว LEX กับเรื่องที่ไม่เล็กตามชื่อ หลังนาย Alexander Gee ประสบปัญหาหนักใจเมื่อกล้องฟิล์มตัวเก่งของเขากับเลนส์โซนี่ 18 มม. ไม่สามารถใช้ร่วมกันได้ คุณ Gee จึงตัดสินครั้งใหญ่ด้วยการลองประดิษฐ์กล้องฟิล์ม Mount โซนี่ของตนเองเสียเลย โดยเอาระบบไฟฟ้าของโซนี่มาจากกล้องที่ตกแตกแต่ภายในยังใช้ได้อยู่ “ผมต้องเรียนรู้พวกโปรแกรมออกแบบอย่าง CAD และการออกแบบกล้อง แน่นอนว่ามันค่อนข้างท้าทายผมมากทีเดียว พอผมค้นคว้ามาสักระยะผมก็มาสนใจพวกพิมพ์ 3D กระบวนการผลิต และวิทยาศาสตร์ด้านวัตถุดิบ จนในที่สุดผมก็สามารถสร้างชิ้นส่วนเล็กๆจากเหล็กเพื่อกล้อง LEX ซึ่งกระบวนการผลิตก็สนุกมากและตอนนี้ผมคิดว่าผมอยากได้เลนส์สักชุดใส่กระเป๋าผม” Alexander Gee ให้สัมภาษณ์กับ sonyalpharumors สื่อออนไลน์ชื่อดังที่ชอบติดตามข่าวของโซนี่หลังจากที่เขาผลิตกล้อง LEX รุ่นโปรโตไทป์ออกมาสำเร็จ โดย Gee มีแผนที่จะปล่อยตัวสมบูรณ์ออกมาหลังจากเขาปรับปรุง LEX ให้ดีขึ้นกว่านี้ พร้อมมีแผนว่าจัดแคมเปญระดมทุนเหล่าผู้สนใจ (crowdfunding) โดยสำหรับใครที่อยากจะร่วมลงขันก็สามารถไปลงทะเบียนร่วมสร้างกันได้ที่ http://www.lexoptical.com/ … Read more

Phottix Ares II Wireless ทริกเกอร์ดีที่ต้องมีไว้ประจำตัว

สำหรับช่างภาพที่ชอบใช้แฟลชแยกออกจากตัวกล้องบ่อยอาจจะคุ้นหน้ากับพวกทริกเกอร์ไร้สายอยู่บ้างแล้วเพราะในตลาดตอนนี้ก็มีหลายค่ายไม่ว่าจะฝั่งจีนที่มักจะมีราคาถูกเลยไปถึงของฝั่งยุโรปที่มีคุณภาพดีกว่าแต่ราคาก็สูงเอาเรื่องเช่นกัน  งานนี้ Foto update ขอแนะนำทริกเกอร์ค่ายใหม่ที่เข้าไทยมาได้สักพักแต่คนไทยอาจจะไม่ค่อยรู้จัก สวนทางกับต่างชาติที่รู้จักและนิยมซื้อมาใช้งานเหตุเพราะคุณภาพดีคุ้มราคา ครั้งนี้จะขอแนะนำทริกเกอร์น้องเล็ก ราคาน้อยแต่ความสามารถไม่น้อย แม้ทุกวันนี้ทริกเกอร์เองก็มีการพัฒนาให้รองรับ High Speed Sync กับแฟลชรุ่นใหม่ๆที่ออกวางในตลาดเพราะคนส่วนใหญ่นิยมใช้ฟังชั่นนี้มากขึ้นและยังเป็นปัจจัยหลักในเลือกซื้อด้วย ส่วนระบบออโต้ของแฟลชหรือ TTL ก็มีการพัฒนาให้สามารถคำนวณการใช้แสงได้แม่นยำ แน่นอนว่าการหาทริกเกอร์ดีๆมาใช้ย่อมช่วยให้การทำงานของช่างภาพง่ายขึ้น เพราะมีทริกเกอร์บางตัวที่เวลาใช้งานยังมีสัญญาณหลุดบ้างหรือระยะห่างไม่ควรมากนักซึ่งถ้าเป็นทริกเกอร์คุณภาพดีๆ จะไม่มีปัญหา แต่ราคาก็จะสูงตามไปด้วย แต่สำหรับเจ้า Phottix Ares II Wireless ค่าย Phottix ที่เข้ามาในไทยอย่างเป็นทางการ โดยเจ้าตัวนี้มาพร้อมกับจอ LCD ปุ่มใช้งานที่ครอบคลุมทุกฟังก์ชั่นช่วยให้การใช้งานง่ายขึ้น พร้อมแชนแนลที่มีถึง 16 ช่องให้เลือกใช้และสามารถจัดกลุ่มการสั่งงานได้ 4 กลุ่ม ระยะการทำงานจะอยู่ที่ 150 เมตร ไม่มีหลุดและยังรองรับการใช้งานไฟสตูดิโอและแฟลชค่ายของ Phottix ได้สบายๆ แถมยังใช้งานกับกล้อง Nikon Canon Sony (MIS), Pentax, Panasonic, Fuji และ Olympus สำหรับถ่านที่ใช้สำหรับตัวส่งและตัวรับจะอยู่ที่ฝั่งละ 2 ก้อน … Read more

Canon G7X Mark III กำลังจะมา…

สำหรับในขณะนี้Canon ได้ประกาศยกเลิกสายการผลิต G7X Mark II แล้ว และไม่กี่เดือนที่ผ่านมา Canon ได้จดทะเบียนกล้องถ่ายรูป EC804  แหล่งข่าวญี่ปุ่นอ้างอิงว่า EC804 อาจจะเป็นกล้อง G series ซึ่งอาจเป็น Canon G7X Mark III อีกทั้งยังเคยมีรูปหลุดของ Canon G7X Mark III โดยแหล่งข่าวยังไม่มีข้อมูลหรือสเปคเปิดเผยออกมา แต่ดีไซน์ที่เปลื่ยนไปเยอะมาก ถูกปรับปรุงให้ดูทันสมัยขึ้น ในภาพปรากฏความชัดของวิดีโอบนหน้าจอ ที่สูงถึง 4K 50FPS และยังมาพร้อมกับ ช่องเสียบไมค์ พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB-C และยังมาพร้อมกับ Hot Shoe ไว้สำหรับต่ออุปกรณ์เสริมอีกด้วย ถ้าเทียบกับ G7 X mark II ที่มีชิปประมวลผลภาพ DIGIC 7 และเซ็นเซอร์ CMOS ขนาด 1 นิ้ว ไม่มีช่องต่อไมค์ มีเพียงช่องต่อUSBธรรมดา บันทึกไฟล์วีดีโอได้เพียงขนาด … Read more

ลืออีกแล้ว Sony a6700 หลุดสเปกมาให้ชมกัน

ข่าวลือสเปค Sony A6700 หรืออาจใช้ชื่อ A7000 ยังไม่มีการยืนยัน ว่ากันว่าจะมาพร้อมโหมด 4K HDR โดยตัวต้นแบบที่อยู่ระหว่างการทดสอบสามารถถ่ายวีดีโอได้ถึง 4K/60fps และยังไม่มีการยืนยันสเปคอื่นๆใดออกมาเพิ่มเติม คาดหวังกันว่าจะมีความห่างชั้น A6500 พอสมควร โดยมีรายละเอียดดังนี้ ระบบ AF ปรับปรุงเรื่อง Eye tracking ปรับปรุงประสิทธิภาพของการถ่ายภาพในที่แสงน้อย ความไวแสงสูงสุด ISO 51200 รองรับการ์ด UHS II ความเร็วชัตเตอร์สูงสุดที่ 1/8000 ถ่ายภาพต่อเนื่องได้เร็วขึ้น แบตเตอรี่ยาวนานขึ้น 2 เท่า มารอลุ้นกันต่อไปนะครับว่า กล้องตัวต่อไปของSony จะพัฒนาแตกต่างออกไปอย่างไรบ้าง ที่มา : Thenewcamera

Harold Feinstein ช่างภาพหัวใจดนตรีกล่อมโลก

อพาร์ทเม้นท์หมายเลข 821 ของช่างภาพ Harold Feinstein ในช่วงวัยรุ่นที่อาศัยห้องเล็กๆ ในจัตุรัสตลาดดอกไม้ย่านชานเมืองของนิวยอร์ก สถานที่ที่อบอวลไปด้วยเสียงจอแจตามแบบฉบับตลาดที่ผู้ซื้อและผู้ขายต่างเจรจาราวกับวงดนตรีแจ๊สหลายสิบวงกำลังแข่งขันบรรเลงเพลงสุดขบถไม่ซ้ำแบบ ไม่มีธรรมเนียมกฎเกณฑ์ใดๆ ขวางกั้นจินตนาการราวกับว่าโลกดนตรีของพวกเขากว้างไกลไร้ขอบเขตและเสรี ภาพถ่ายก็คงไม่ต่างกันนักในสายตาของช่างภาพนิวยอร์กเกอร์ที่ต่อมาเขาจะบรรเลงเพลงผ่านภาพถ่ายให้คนทั่วโลกได้รู้จัก Jazz Scene ของ Harold Feinstein Harold Feinstein ช่างภาพชาวอเมริกัน พื้นเพเป็นคนนิวยอร์กแถว Coney Island ย่านชานเมืองที่อุดมไปด้วยความหลากหลายไม่ว่า แอฟริกา รัสเซีย อิตาลีและยังมีกลุ่มคนหลายศาสนามาอาศัยร่วมกันซึ่งเป็นผลดีของเขาที่จะได้ทำความรู้จักพร้อมรับรู้ประสบการณ์ที่หลากหลาย จากการเดินทางเที่ยวเล่นตามประสาเด็กที่มีงบวันละ 25 เซนต์ เมื่ออายุย่างเข้า 15 ปีชีวิตของ Harold ก็เลือกที่จะเลือกเดินทางสายช่างภาพที่เขาชอบ จากการฝึกฝนมากว่า 2 ปีทำให้เขามีงานแสดงภาพของตัวเองในแกลเลอรี่ชื่อดังอย่าง Manhattan Limelight Gallery  ในวัยเพียง 17 ปีเท่านั้น และอีก 6 ปีต่อมาเขาเข้าร่วมกองทัพเพื่อเข้าสู่สมรภูมิสงครามคาบสมุทรเกาหลีในฐานะช่างภาพสงครามครั้งแรก “ในตอนนั้นผมอยากเข้าร่วมสงครามในฐานะช่างภาพ ซึ่งโชคก็เข้าข้างผมเต็มๆ ผมได้เข้าร่วมกับกองทัพบกและได้พกกล้องติดตัวเดินทางตลอดการรับใช้ชาติ” Harold Feinstein รำลึกถึงความหลังในช่วงเวลาที่เขามีโอกาสได้เก็บภาพสงครามและผลงานของเขาได้รับการยกย่องในวงกว้างพร้อมกับการมีชื่อเสียงขึ้นมาทันที เมื่อกลับมาที่นิวยอร์ก บรรยากาศรอบเมืองกำลังอบอวลไปด้วยงานศิลปะแนว Abstract … Read more

Tamron 28-75mm f/2.8 Di III RXD เลนส์ใหม่ล่าสุดสำหรับกล้องSony เปิดPre-Order 27 เมษายน นี้

Tamron 28-75mm f/2.8 Di III RXD เลนส์ซูมระยะมาตรฐานสำหรับกล้องMirrorless ขนาด Full Frame ให้ประสิทธิภาพในการถ่ายภาพที่ยอดเยี่ยมด้วยรูรับแสงตลอดช่วง F/2.8 รวมถึงคุณภาพของภาพที่ยอดเยี่ยมเช่นกัน โดยมีระยะโฟกัสห่างจากวัตถุน้อยที่สุด 0.19 เมตร ในการตั้งค่าการซูมมุมกว้างสุด ขนาดกะทัดรัด 117.8 มม. เพิ่มความคล่องตัว และน้ำหนัก 550 กรัม ระบบออโต้โฟกัสแบบความเร็วสูงและ ใหม่ทั้งหมด ระบบ Rapid eXtra-silent stepping Drive (RXD) ทำให้มอเตอร์ทำงานไร้เสียงทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานวิดีโอ คล้ายกับ ระบบ STM ของ Canon และ ระบบ AF-P ของ Nikon เลนส์ยังมีโครงสร้างแบบป้องกันความชื้น รวมทั้ง Fluorine Coating มีความทนทานต่อลายนิ้วมือและรอยเปื้อนสูง รองรับระบบ “Direct Manual Focus (DMF)” ของกล้อง Sony ทำให้ซูมแบบใหม่นี้สามารถใช้ฟังก์ชั่นขั้นสูงร่วมได้ รายละเอียดของเลนส์ Tamron 28-75mm f/2.8 Di III RXD ระยะ 28-75 … Read more

ก้าวครั้งใหญ่! Nikon รุกตลาดกล้องโปรMirrorlessแน่นอน ไม่นานเกินรอ

SankeiBiz สำนักข่าวธุรกิจของประเทศญี่ปุ่นรายงานมูลค่าการจัดส่งซื้อขายรวมของกล้องดิจิทัลในปีที่แล้ว อยู่ที่ประมาณ 792.8 พันล้านเยน ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ5ปีที่กล้องMirrorlessเข้ามามีบทบาทร่วมกันกล้องDSLRที่เป็นพระเอกมายาวนานหลายปี ซึ่งสำหรับอุตสาหกรรมกล้องขณะนี้ ต่างได้รับผลกระทบจากสมาร์ทโฟนกันถ้วนหน้า กล้องMirrorlessจึงเป็นดั่งปรากฎการณ์ “ฝนในฤดูแล้ง” เพื่อรับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว Canon ก็รีบเปิดตัว EOS M50 ทันทีไม่รอช้า ด้าน Nikon เองจึงเริ่มพัฒนากล้องตัวใหม่ เพื่อรับมือความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่นี้ เป้าหมายคือ การเปิดตัวกล้องภายในปีงบประมาณซึ่งจะสิ้นสุดภายใน มีนาคม 2562 นี้ มีแนวโน้มยืนยันว่า Nikon กำลังวางแผนที่จะนำเปิดตัวในงาน Photokina 2018 และยังมีความเป็นไปได้ว่า Nikon อาจจะจัดแสดงกล้องตัวใหม่นี้ใน “นิทรรศการขนาดใหญ่ที่จัดแสดงในต่างประเทศ” ในหลายปีที่ผ่านมา Sonyที่เป็นคู่แข่งแอบนั่งอยู่ข้างสนามแข่งขันอย่างเงียบๆ กลับบุกอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง กล้องMirrorless อย่าง A9 และ A7III สร้างปรากฎการณ์หลายอย่าง ก็รอดูกันต่อไปว่า Nikon จะเดินหน้าต่อไปในทิศทางไหน รับมือคู่แข่งอย่างSonyและCanonไหวหรือป่าว กล้องMirrorlessระดับโปรจะเป็นอย่างไร FotoUpdateจะรีบรายให้ทราบโดยทันที ที่มา : SankeiBiz

มหากาพย์ ลิง เซลฟี่ ยังไม่จบ ศาลกร้าวต้องพิจารณาต่อ 

เชื่อว่ามีหลายคนคิดว่าดราม่าเรื่องลิงเซลฟี่จบลงตั้งแต่ปีที่แล้ว หลังคู่กรณีหลายฝ่ายตกลงที่จะจบข้อพิพาทนี้ร่วมกันในปลายปี 2017 ที่ผ่านมา หลังจากขึ้นโรงขึ้นศาลเป็นรักสามเส้ามากว่า 7 ปี แต่สุดท้ายศาล the Ninth Circuit ของอเมริกาที่รัฐเวอจิเนียออกมากล่าวถึงกรณีนี้ว่า ศาลจำเป็นต้องตัดสินคดีนี้ให้จบแม้จะมีการเจรจากันเรียบร้อยแล้ว จุดเริ่มต้นดราม่ารสลิงแสมเริ่มต้นในปี 2011เมื่อช่างภาพชาวฝรั่งเศสชื่อ  David Slater เดินทางไปถ่ายภาพที่เมือง สุราเวสี ประเทศอินโดนีเซีย โดยในตอนนั้น Slater เดินทางเข้าป่าเพื่อเก็บภาพธรรมชาติและลืมกล้องตัวนึงไว้ในป่า ซึ่งขณะนั้นเองเจ้าลิง นารูโตะ ผ่านมาจึงหยิบมาเล่นตามประสาลิงซนและได้กดชัตเตอร์เซลฟี่หน้าตัวเองไว้เป็นที่ระทึกก่อนจะเดินจากไป ภายหลังที่ช่างภาพได้กล้องกลับมาก็พบภาพดังกล่าวและโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย สร้างปรากฏการณ์ครั้งใหญ่ให้โลกอย่างมากทั้งข่าวและการพูดถึงกันในวงกว้าง จนสุดท้ายเว็บไซต์ วิกิพีเดียก็จัดการคัดลอกรูปภาพไปลงเว็บไซต์ของตนเอง ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้เจ้าของภาพอย่างมากจนติดต่อไปเพื่อขอค่าลิขสิทธิ์ แต่ทางเว็บไซต์สารานุกรมก็ตอบกลับมาว่ารูปนี้ไม่มีลิขสิทธิ์เพราะเจ้าลิงนารุโตะเป็นคนถ่ายด้วยตนเอง ซึ่งตามกฎหมายแล้วสัตว์ไม่น่าจะถือลิขสิทธิ์งานของตนเองได้ จากวาทะเด็ดของวิกิทำให้ช่างภาพจัดการดำเนินคดี ในระหว่างการพิจารณาคดีนั้นเอง PETA องค์กรที่ทำงานด้านการอนุรักษ์และสิทธิของสัตว์ เป็นอีกตัวละครใหม่อีกตัวออกโรงร่วมแจมทวงลิขสิทธิ์ภาพให้เจ้าลิงด้วย ทำเอาคดีนี้ยืดยาวมาเรื่อยๆจนมากินเวลากว่า 7 ปี ความสนุกสนานของดราม่าเรื่องนี้ก็วนเวียนอยู่ในชั่นศาลมาเรื่อยๆ ทั้งเรื่องที่สัตว์ไม่สามารถถือครองลิขสิทธิ์เพราะในอเมริกานั้นมองว่าสัตว์ไม่ใช่องค์กรหรือบุคคลที่จะสามารถตกลงทำธุรกรรมด้านสิทธ์ได้ แต่ทาง PETA เองก็พยายามดันเรื่องนี้ ส่วนช่างภาพ David Slater เจ้าของกล้องก็พยายามยืนยันว่ารูปนี้ต้องเป็นลิขสิทธิ์ของตนเพราะกล้องที่ใช้ถ่ายเป็นของตนเอง ส่วน Wiki ก็ใช้ช่องว่างทางกฎหมายยืนยันว่าการกระทำของตนถูกต้อง ท่ามกลางความชลมุลศึกสามฝ่ายที่ไม่มีใครยอมใคร ศาลจึงแนะนำให้คู่กรณีที่เกี่ยวข้องทั้งหมดนั่งโต๊ะเจรจาเพื่อหาทางออกให้เรื่องนี้จนสุดท้ายว่า ช่างภาพ Slater ยอมตกลงที่จะบริจาคเงิน 25 เปอร์เซ็นต์ที่ได้จากการขายรูปนี้ให้กับมูลนิธิที่ดูแลลิงแสมอย่างเจ้า นารูโตะ ซึ่งทาง PETA เองก็ออกมายืนยันว่าสัตว์ทุกตัวย่อมมีสิทธิที่จะถือครองลิขสิทธิ์ของตนเองได้เหมือนกับคน แต่ข้อความดังกล่าวกลับสร้างความบันเทิงใหม่ขึ้นมาทันทีเพราะศาล   The Ninth Circuit มองว่าการตกลงครั้งนี้กำลังจะขัดต่อกฎหมายเรื่องลิขสิทธิ์และจะสร้างข้อพิพาทอื่นๆตามมาดังนั้นกรณีเรื่องนี้ศาลจะจัดการไต่สวนอย่างเป็นทางการและตัดสินลงรายลักษณ์อักษรอีกที ดราม่าลิงยังคงดำเนินต่อไป ใครเชียร์ฝั่งไหนยังต้องลุ้นไปยาวๆ