Phase One จัดใหญ่ไฟกะพริบกล้องติดโดรนเซนเซอร์ค่ายโซนี่ความละเอียด 100 ล้านพิกเซล

ปัจจุบันเทคโนโลยีกำลังก้าวกระโดดไปไกลขึ้นทุกขณะ กล้องถ่ายภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวก็เช่นกันที่หลายค่ายต่างมุ่งพัฒนาอุปกรณ์ให้ดีและล้ำสมัยมากขึ้นทั้งรูปลักษณ์ภายนอก ฟังชั่นต่างๆให้รองรับการทำงานมากขึ้น และเรื่องที่หลายค่ายพยายามทำขึ้นข่มกันมาตลอดคือเรื่องความระดับความละเอียดให้มากขึ้น ล่าสุด Phase One ประกาศเปิดตัวสุดยอดกล้องติดโดรนกับความละเอียดระดับ 100 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ขนาด medium format ตัวแรกเรียบร้อยแล้ว โดย Phase One ตั้งชื่อให้กล้องโคตรระเอียดตัวนี้ว่า iXM 100 MP ที่มาพร้อมกับความละเอียด 100 ล้านพิกเซล โดยเป็นกล้องตัวแรกที่ใช้เทคโนโลยีของโซนี่ BSI (backside-illuminated) เซนเซอร์ขนาด 44 x 33 mm ทาง Phase One ออกมายืนยันว่ารุ่นนี้จะมีเซนเซอร์ medium format ที่เรียกได้ว่าเร็วสุดในระดับเดียวกันทีเดียว ด้านสเปคของกล้องโดยรวมจะมีเรื่องของ ISO ที่สามารถดันได้ถึง 50-6400 ไดนามิคเรนจ์ที่ 83 dB การป้องกันน้ำมาตรฐาน IP53 สามารถทำงานในอุณหภูมิตั้งแต่ 10-40 องศา ถ่ายต่อเนื่องได้ถึง 3 fps Mount … Read more

ชาวโซนี่มีเฮ! หลังมีข่าวลือจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ และSIGMA E mount เริ่มวางจำหน่ายแล้ว

ในช่วงพฤษภาคม-มิถุนายนปีนี้ แหล่างข่าวลือที่มีระดับความน่าเชื่อถือ SR4 อย่าง sonyalpharumour ระบุว่า Sony กำลังเตรียมการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งถ้าดูจาก Sony 2018 roadmap ก็จะมีรายชื่อดังนี้ เลนส์ 24mm f/1.4 GM กล้อง A7s III และ A6700 หรือไม่แน่อาจจะเป็นเลนส์ FE 135mm นอกจากนั้นถ้ายังไม่ลืมกันในตอนต้นปี ภายใน CP+2018 Sony ได้แอบเผยโฉมเลนส์ Sony 400mm f/2.8 OSS GM ซึ่งราคาคงจะได้รับการเปิดเผยภายในเดือนนี้แน่นอน นอกจากนั้นยังมีข่าวอีกว่า SIGMA พร้อมจำหน่ายเลนส์ในตระกูล ART ของตัวเอง ที่รองรับระบบของ Sony E Mount อย่างเต็มระบบแล้ว โดยตอนแรก SIGMA วางแผนเริ่มวางจำหน่ายในเดือนเมษายน แต่ได้เลื่อนมาเป็นช่วงพฤษภาคม-มิถุนายนแทน ซึ่งรายชื่อเลนส์และราคามีดังนี้ Sigma 14mm f/1.8 ราคา $1,599 Sigma … Read more

Nikon  ยันเอง Fullframe Mirrorless มาแน่นอนฤดูใบไม้ผลิปี 2019 

เป็นเรื่องราวมหากาพย์ไม่แพ้ใครสำหรับกล้อง Mirrorless Fullframe ค่ายนิคอนที่ไม่ค่อยจะมีข่าวความคืบหน้าเท่ากับคู่แข่งรายใหญ่อย่างแคนอนที่เรียกว่าทางหนอนแดงมีข่าวหลุดมาให้ชงกันเกือบทุกเดือนตั้งแต่ดีไซน์ยันถึงสเปคและข่าวเปิดตัว สวนทางค่ายเหลืองที่ย้อนเวลาไปีที่เป็นข่าวจริงๆ เนื้อๆคือตอนปลายปีที่แล้ว ทางนิคอนมีความคิดจะทำ Mount ใหม่เพื่อรองรับกับกล้องไร้กระจกที่จะออกในไม่ช้า แต่หลังจากเจอกระแสบ่นเรื่องเทสาวกไปชุดใหญ่ ค่ายนิคอนเก็บตัวเงียบไม่มีข่าวออกมาให้เห็นในเรื่องนี้เลยจนมาในเดือนเมษายนต้นเดือนมีข่าวเล็กหลุดมาว่าพวกเขากำลังทำงานกันอย่างหนักเพื่อเปิดตัวในปีหน้า  การออกมาให้ข่าวครั้งนี้ก็ถือว่าผู้บริหารนิคอนทำนายไว้ไม่ผิดแม้จะคลาเคลื่อนไปบ้างสำหรับนิคอนแต่ก็ไม่ผิดความคาดหมายสำหรับทั้งสองค่ายที่พยายามเร่งเครื่องเพื่อบุกตลาดกล้องอีกครั้งหลังปล่อยให้ Sony ทำกำไรไปบานเบอะเป็นปี  จากเว็บไซต์ NikonEye  จับคำสัมภาษณ์ของผู้บริหารนิคอนที่ให้สัมภาษณ์ผ่านถึงเรื่องนี้ว่า “ตอนนี้ทางทีมงานกำลังเร่งพัฒนาในเรื่องนี้อยู่และคาดว่าน่าจะเริ่มโชว์ตัวตัวได้ในช่วงใบไม้ผลิปี 2019 นะ”  ซึ่งทางเว็บไซต์ดังอย่าง Nikoneye คาดการณ์ว่า Fullframe Mirrorless ตัวแรกของค่ายน่าจะมาในระบบใหม่พร้อมความระเอียดระดับ 30 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ phase-detection และmount เลนส์ใหม่รวมถึงเลนส์แบบใหม่ที่จะมาพร้อมกันด้วย โดยเดาว่ากล้องใหม่น่าจะรองรับการใช้ F-Mount ออโต้โฟกัสได้สบายๆ  ถือว่าเป็นไปตามคาดหมายของหลายฝ่ายทั้งหนังสือพิมพ์แดนปลาดิบที่ทำนายนิคคอนต้องพยายามเร่งเครื่องสร้าง Mirrorless ให้เสร็จทันเดือนมีนาคม 2019   ถือว่าเป็นข่าวที่ดีสำหรับสาวกนิคอนที่จะได้เตรียมเงินซื้อกล้องเรือธงใหม่ที่น่าจะไม่ทำให้ผิดหวังเหมือนรุ่น J1 ที่หลายคนส่ายหน้ากับคุณภาพที่เต็มที่ของมัน       

รีวิว Canon M100 กล้องมินิมอลเอาใจสาวสายเที่ยวและเซลฟี่  

สำหรับสาวๆคนไหนที่อยากจะหากล้องใบเล็กเด็กเก้าขวบออกเดินทางไปเป็นเพื่อนในราคาหมื่นต้นๆ แล้วละก็ Canon M100 เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ fotoupdate อยากนำเสนอ ด้วยข้อดีหลายอย่างที่ทาง Canon นำมาใส่ไว้ใน M100 ทั้งยังสามารถเชื่อมต่อผ่านบลูทูธส่งเข้าสมาร์ทโฟนและอีกหลายฟังชั่นที่จะช่วยให้การถ่ายภาพสนุกและง่ายต่อการใช้งานตลอดการท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น     สำหรับ Canon M100 เป็นกล้อง Mirrorless ที่ปล่อยมาเมื่อเดือนกันยายน 2017  ที่มาพร้อมกับสเปคไม่เล็กกับเซนเซอร์ขนาด 24.2 ล้านพิกเซล DIGIC 7 และโฟกัสแบบ Dual Pixel CMOS AF ที่จะช่วยกะระยะโฟกัสจากกล้องถึงตัวแบบเป็นตัวช่วยให้โฟกัสได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น สามารถกดชัตเตอร์รัวได้ถึง 6 เฟรม ถ่ายวีดีโอขนาดความละเอียด Full HD 60p  หน้าจอกว้าง 3.0 inch ระบบ Touch screen ที่สามารถสั่งโฟกัสและกดชัตเตอร์ผ่านหน้าจอได้ง่ายๆ เหมาะกับสาวๆ ที่ชอบเซลฟี่และไม่ต้องการความยุ่งยากในการถ่าย ด้านการเชื่อมต่อของ M100 เองก็ทำมาไว้ให้เข้ากับยุคสมัครทั้งเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi และ Bluetooth ก็มีมาให้ใช้แบบเหลือๆ  โดยเจ้า M100 สามารรองรับการ์ด SD, SDHC, SDXC และน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 302 กรัม ถือว่าขนาดเบามือเหมาะกับสาวๆเป็นอย่างมาก   ในเรื่องการออกแบบนั้นทางแคนนอนออกแบบเจ้า M100 มาให้เป็นแนวมินิมอล ที่มีปุ่มสั่งงานน้อยแต่ง่ายและสะดวก ใช้สีที่ไม่ฉูดฉาดมากนักอย่างสีดำ สีขาวที่ดูสบายตา ขนาดกะทัดรัด ไม่ใหญ่จนเกินไปเหมาะกับสุภาพสตรี แต่ถ้าผู้ชายถืออาจจะดูเล็กไปและขนาดที่เล็กนี่เองแคนนอนจึงใส่ยางมาไว้ด้านหน้าและบนขวาเพื่อช่วยให้การจับดูแน่นหนาและมั่งคงมากขึ้น ถือว่าคงคอนเซ็ปน้อยแต่มากได้ดีทีเดียว   ปุ่มสั่งการที่ทราบกันอยู่แล้วว่าเขาใส่มาไม่เยอะมากจะมีปุ่มกดชัตเตอร์ ปุ่มเปลี่ยนโหมดที่จะมีสามโหมดให้เลือก ถ่ายภาพออโต้ ถ่ายภาพแมนนวลและวีดีโอ ปุ่มอัดวีดีโอ และปุ่มคอนโทรลด้านหลัง ซึ่งเมื่อเทียบกับค่ายอื่นแล้ว M100 มีปุ่มน้อยกว่าเห็นๆ เพราะฟังชั่นหลายอย่างทางแคนนอนย้ายไปไว้บนหน้าจอซึ่งจากการทดลองใช้ 1 วันแล้วถือว่าสั่งงานงานไม่ยุ่งยากอย่างบางรุ่นที่กว่าจะตั้งค่าได้ต้องเข้าหลายขั้นตอนจนรำคาญ ถือว่าแคนนอนออกแบบมาได้ดีในเรื่องของหน้าจอเมนู ตั้งค่าต่างๆ     ด้านฟังชั่นหรือโหมดต่างๆ ของกล้องที่มีมาให้ใช้ทั้ง ถ่ายบุคคลหน้าเนียน ถ่ายวิว ถ่ายภาพแบบ HDR ถ่ายแบบกล้องรูเข็ม ถ่ายอาหาร มาโคร กลางคืน ถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างดีทีเดียว จะขอแยกพูดคุยไปทีละโหมดที่สายเที่ยวมักจะใช้ประจำ     1.ถ่ายบุคคลหน้าเนียน   เป็นฟังชั่นไม้เด็ดที่สาวๆหลายคนต้องชอบลอง โดยแคนนอนมีระดับความฟรุ้งฟริ้งให้เลือกประมาณ 5 ระดับซึ่งทางทีมงานเองมักจะชอบใช้ที่ระดับ 3-4 อยู่ในเกณฑ์กำลังสวยหน้าไร้สิว ไม่ว่าจะถ่ายเซลฟี่หรือให้ผู้ชายถ่ายให้รับรองสาวๆออกมาดีทุกรูป แต่ส่วนตัวทางทีมงานแนะนำให้พยายามใช้หมวดนี้ในมุมครึ่งตัวหรือเซลฟี่จะดีกว่าเพราะการถ่ายเต็มตัวในโหมดนี้อาจจะทำให้สาวๆ เนียนจนเบลอไปทั้งตัว แต่ภาพรวมแล้วเด็ดโดนใจ     2.โหมดถ่ายวิว   โหมดที่มีไว้ให้สาวใช้ชิลๆ เพราะโหมดนี้เขาจะคำนวณภาพทั้งท้องฟ้า ผืนดิน ตึกออกมาให้ภาพพอดีเพราะปัญหาของคนส่วนใหญ่เวลาถ่ายวิวในเวลากลางวันจะเจอเรื่องท้องฟ้าสว่างเป็นสีขาว พื้นดินดำจนถ่าน แต่ถ้าเปิดโหมดนี้แล้วยอมรับว่าถ่ายวิวออกมาดีทุกรูป ไม่มีข้อให้บ่นแน่นอน  และยังมีโหมด Fish-eye ให้เพื่อนๆได้สนุกด้วย 3. ถ่ายภาพแบบ HDR   เป็นอีกโหมดที่ทีมงานบอกเลยว่าจำเป็นต้องใช้โดยเฉพาะวันที่แดดมามาก มาแรงไม่แคร์สาวๆเลย ซึ่งการถ่ายย้อนแสงโดยไม่เปิดโหมดนี้อาจจะเจอปัญหาหน้าดำเป็นถ่านไม้เผาข้าวหลามหนองมน ส่วนฉากขาวราวกับข้าวสวยร้อนๆในหม้อหุงขาว ซึ่งการถ่าย HDR ของ M100 จะถ่ายออกมาให้ตัวแบบชัด ส่วนฉากสว่างกว่าเล็กน้อย ซึ่งรวมๆแล้วดูดีทีเดียวแต่เมื่อกดแล้วต้องให้เวลากล้องกดเครื่องคิดเลขคำนวณภาพสักครู่นึงซึ่งอยู่ที่ประมาณ 10-15 วินาทีถึงจะสามารถถ่ายต่อได้เพราะกล้องจะกดชัตเตอร์ภาพที่วัดแสงที่ตัวแบบและฉากก่อนจะมาผสมลงในภาพเดียวซึ่งต้องใช้เวลาในการทำงานเล็กน้อย แต่รับรองสวยดี     4.กล้องรูเข็ม   เป็นอีกโหมดที่บอกได้เลยว่าม้ามืดแซงทุกโหมดจริงๆ จากการทดลองใช้แล้วภาพออกมาอาร์ตได้ใจติดใจทุกช่วงอย่างแท้จริง  เป็นอีกหมวดที่ไม่มีอะไรให้ติมากนักแต่อาจจะใช้ยากไปนิดหน่อยสำหรับคนไม่รู้จักแต่ถ้าเข้าใจแล้วสบายใจแน่นอน     5. โหมดถ่ายอาหาร   เป็นอีกโหมดที่งานดีน่าชมอีกโหมดเพราะจากทดลองถ่ายเค้กแล้ว ทั้งการโฟกัสที่ไว เบลอได้ดีไม่มากเกินไป ต้องชมทางแคนอนที่ทำโหมดนี้ออกมาได้ดีเชื่อว่าสาวๆต้องชอบโหมดนี้แน่นอน   6. มาโคร   โหมดนี้ถือว่าพระเอกในดวงใจเหมือนกันเพราะความคมและความชัดที่ได้มาต้องบอกว่าเด็ดมากๆ การโฟกัส การวัดแสงแม่นยำดี โดยทีมงานถ่ายหน้านางแบบออกมาด้วยโหมดนี้สามารถเห็นสิวและรายละเอียดบนหน้าครบทั้งหมดไม่มีจุดไหนเบลอแต่อย่างใด     7.โหมดกลางคืน   เป็นอีกฟังก์ชั่นที่สาวๆต้องใช้เพราะในช่วงเวลาที่แสงอาทิตย์หมดแต่ถ่านกล้องยังไม่หมด จะใช้หมวดอื่นก็ไม่ไหว กล้องตัวนี้จึงใส่โหมดกลางคืนมาไว้ให้ โดนการทำงานจะเป็นการถ่ายสี่ภาพรัวแล้วกล้องจะมาทำการโปรเซสเองเพื่อนนำส่วนสว่างหรือส่วนที่ดีของสี่รูปมารวมอยู่ใน 1 รูป แน่นอนเมื่อกดถ่ายแล้วต้องยืนรอประมาณ 15-20 วินาที (อารมณ์นับ 1-20) แต่ในบางสถานการณ์ที่มืดมากๆ โหมดนี้อาจจะแสดงผลออกได้ไม่ดีเพราะแสงน้อยจนเก็บรายละเอียดไม่ไหว แต่ยังมีเรื่องที่ทางทีมงานลองแล้วงานดีคือการเปิดแฟลชคู่ สิ่งที่ได้มาในรูปคือแฉกไฟที่ออกมาสวยดูดีมากทีเดียว     สรุปภาพรวมแล้วกล้อง M100 เป็นกล้องที่สาวๆ สายมินิมอลชอบเที่ยวและไม่อยากวุ่นวายกับการนั่งตั้งค่ามากนักน่าจะชอบเจ้าตัวนี้เพราะทางแคนนอนออกแบบไม่ให้ใช้งานยุ่งยากแถมมีฟังก์ชั่นที่เข้ากับการใช้งานจริงๆของผู้หญิงยุคใหม่ โดยไม่ได้ใส่ฟังก์ชั่นลูกเล่นมากจนต้องเสียเวลามานั่งเลือก แค่เลือกโหมด ยิ้มสวยแล้วกดถ่าย ชีวิตดี๊ดี และที่สำคัญราคาตอนนี้ไม่แพงด้วย   คะแนนความอร่อยอยู่ที่ 7/10     … Read more

จะล้ำไปไหน! SOUNDCAM กล้องตัวแรกของโลกที่ทำให้เห็นภาพของเสียง ในขนาดมือถือ

SOUNDCAM เป็นกล้องรุ่นใหม่ที่ให้คุณสามารถถ่ายภาพเสียงได้   เป็นกล้องที่มีขนาดมือถือเครื่องแรกของโลก ที่ทำให้เห็นภาพขนาดของเสียง และมีราคาถูกกว่าในโรงงานอุตสาหกรรมซึ่งมีราคาสูงถึง 100,000 เหรียญ บริษัทผู้ผลิต SOUNDCAM กล่าวว่า “ระบบใช้งานง่าย ไม่ต่างจากสมาร์ทโฟน และสิ่งที่ทำให้มันพิเศษคือความเร็วและความแม่นยำสูง” กล้องทำงานโดยร่วมกันโดยมีไมโครโฟน 64 ตัว, กล้องออปติคัล และระบบวิเคราะห์ข้อมูล เมื่อรวบรวมวิเคราะห์ข้อมูลจากไมโครโฟนระบบ จะระบุว่าเสียงมีต้นกำเนิดมาจากไหน โดยผลการค้นหาจะมีความละเอียดสูงในแบบเรียลไทม์ในมุมมองสดจากกล้อง “เสียงแพร่กระจายเป็นคลื่นความถี่ความเร็วสูงมาก ซึ่งหมายความว่าทุกครั้งเสียงต้องใช้เวลาในการแพร่กระจายจากแหล่งกำเนิดเสียงไปยังไมโครโฟนแต่ละตัวจะขึ้นอยู่กับตำแหน่งของไมโครโฟน ระบบอัลกอริทึมที่ทำงานบน SOUNDCAM จะวิเคราะห์ความล่าช้า และคำนวณภาพที่ถูกต้องในรูปแบบวิดีโอเรียลไทม์” “ซึ่งสามารถช่วยคุณติดตามและวิเคราะห์ทุกชนิดของเสียงรบกวนในทุกสภาพแวดล้อม ตัวอย่างเช่นการค้นหาเสียงโดรนที่คุณได้ยินแต่ไม่เห็น ค้นหาแหล่งที่มาของเสียงในรถที่กำลังทำงานอยู่ หรือหาตำแหน่งที่เกิดการรั่วไหลได้” วีดีโอสาธิต วีดีโอสาธิต วีดีโอสาธิต ด้านหลังของกล้องมีขนาดน้ำหนัก 7 ปอนด์ (3 กก.) เป็นจอกันน้ำขนาด 7 นิ้วที่มีความละเอียด 800 × 480 กล้องออปติคัลมีความละเอียด 640 × 480 และสามารถบันทึกภาพได้ 16 เฟรมต่อวินาที โดยบันทึกไฟล์วิดีโอเสียงและภาพถ่ายในรูปแบบ. mp4, .wav และ. jpg SOUNDCAM มีลักษณะการทำงานเช่นเดียวกับกล้องจับความร้อน แต่สามารถใช้งานได้ง่ายดายกว่าและสะดวกต่อทุกคน บริษัทผู้ผลิตยังกล่าวอีกว่า “เทคโนโลยีที่มีอยู่เดิมเหล่านี้ … Read more

สัมภาษณ์ Conor McDonnell แบรนด์แอมฯนิคอนวัย 26 ปี กับ ความหวัง และความฝันที่ยิ่งใหญ่

ทุกคนย่อมมีความฝัน เป้าหมายสำคัญที่ตนอยากไปให้ถึง ความฝันของช่างภาพหลายต่างก็ฝันที่จะได้ถ่ายภาพที่สุดยอด อลังการและหากได้รับการสนับสนุนจากบริษัทกล้องแบรนด์ดังในเรื่องอุปกรณ์แล้วละก็ คงเป็นความฝันที่สุดยอดจนหลายคนต้องอิจฉาแน่นอน แต่เชื่อไหมว่ามีช่างหนุ่มวัย 26 ปีที่บุกเบิกเส้นทางการถ่ายให้ตนเองจนสามารถก้าวขึ้นมาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของนิคอน หลังจากพยายามสร้างชื่อเสียงให้ตนเองมาตั้งแต่ตั้งแต่ 16 ปี เขาเดินตามฝันอย่างไม่ลดละจนมาเป็นสุดยอดช่างภาพรุ่นใหม่ที่หลายคนจับตามอง และยังได้เป็นช่างภาพงานแต่งในงานของ Kanye West and Kim Kardashian ไฮโซชื่อดังของอังกฤษเลยทีเดียว งานนี้เว็บไซต์ชื่อดัง Petapixel มีโอกาสได้จับช่างภาพฮอตคนนี้มาพูดคุยถึง เส้นทางชีวิต ความฝัน ความสำเร็จกันแบบเจาะลึก Peta Pixel : เล่าถึงเส้นทางชีวิตกว่าจะได้มาเป็นนักสร้างภาพ? Conor McDonnell : เป็นอุบัติเหตุที่ผมไม่คาดคิดเหมือนกันที่ผมได้เข้าสู่ถนนนักถ่ายภาพ  ตอนผมอายุ 16 ปี ช่วงนั้นมีคอนเสิร์ตที่ผมอยากเข้าไปดูมากแต่ผมซื้อตั๋วไม่ทัน ผมพยายามคิดหาวิธีที่จะได้เข้าไป และด้วยประสบการณ์เป็นแฟนคลับตามดูหลายคอนเสิร์ตผมมักจะเห็นเหล่าช่างภาพทำงานอยู่ในนั้น เดินเข้าออกได้หลายที่ ทำให้รู้สึกว่าอาชีพนี้มันโคตรคูลเลยผมอยากจะเดินทางสายนี้บ้าง ผมจึงพยายามติดต่อทีมงานผู้จัดเพื่อขอบัตรสื่อเพื่อผมจะได้เข้าไปถ่ายเก็บภาพตรงนั้นแต่ก็ไม่มีใครตอบรับ ซึ่งสุดท้ายก็มีอยู่วงหนึ่งที่อนุญาตให้ผมได้ลองไปเรียนรู้ จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นของอาชีพช่างภาพของผมเลย ในตอนนั้นผมมีแค่ความรู้พื้นฐานถ่ายภาพเท่านั้น  ในการถ่ายภาพคอนเสิร์ตครั้งแรกของผมผมใช้โหมดออโต้ แต่หลังจากงานเริ่มไปได้ 30 วินาที ผมกลับมาตรวจสอบรูปและพบความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ผมรีบปรับเป็นโหมดแมนนวลทันที ภายหลังจบงานผมส่งจดหมายไปกว่า 100 แห่งแต่มีเพียง 2 … Read more

อย่างนี้ก็มีด้วย! ภาพถ่ายสัตว์ป่าที่ชนะรางวัลการประกวด ถูกตัดสิทธิ์ เพราะใช้สัตว์จำลอง

ผู้ชนะเลิศการประกวดภาพถ่ายสัตว์ป่าที่มีชื่อเสียงของการประกวดภาพถ่ายในปีนี้ ถูกปลดรางวัล หลังจากที่พบว่าที่เห็นในภาพนั้นเป็นสัตว์ที่ถูกจำลอง ช่างภาพชาวบราซิล นามว่า Marcio Cabral ผู้ชนะรางวัล “Animals in the Environment” ในการประกวดภาพถ่ายปี 2017 โดยให้ชื่อภาพว่า “Night Raider” ภาพดังกล่าวแสดงให้เห็นตัวชะมดที่กำลังรื้อจอมปลวก เล่นเอาผู้จัดงานปวดหัวตามๆกัน หลังพบว่ารูปที่ถ่ายนั้น ดันไปมีลักษณะคล้ายคลึงกับ “สัตว์จำลอง” ที่อยู่หน้าประตูPortão do Bandeira ของอุทยานแห่งชาติ Emas ในประเทศบราซิล แถมนาย Marcio Cabral ยังได้รับรางวัล 1,250 เหรียญ พร้อมผลงานยังได้ไปจัดแสดงในนิทรรศการรางวัลในพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติของกรุงลอนดอนอีกด้วย พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติแห่งชาติซึ่งเป็นเจ้าของและดำเนินการประกวดอันทรงเกียรตินี้ได้ขอความช่วยเหลือจากนักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญห้าคนเพื่อตรวจสอบหลังจากการตรวจสอบอย่างละเอียดโดยใช้เวลาเพียงสามสัปดาห์ พิพิธภัณฑ์ได้สรุปว่าหลักฐานที่มีอยู่ชี้ให้เห็นข้อกล่าวหานี้เป็นความจริง เป็นผลให้พิพิธภัณฑ์เชื่อว่าภาพดังกล่าวละเมิดกฎการแข่งขัน ซึ่งกฎระบุไว้อย่างชัดเจนว่า “ภาพถ่ายต้องไม่หลอกลวงผู้ชมหรือพยายามที่จะบิดเบือนความจริงของธรรมชาติ” พิพิธภัณฑ์ยังได้ขอให้นาย Marcio Cabral ส่งไฟล์RAW ที่ได้ถ่ายภาพ “ก่อน” และ “หลัง” มาพิสูจน์หลักฐาน แต่นาย Marcio Cabral กลับบอกว่าได้ลบภาพนั้นไปแล้ว แต่เขามีพยานบุคคลที่สามารถพิสูจน์ว่าเขาถ่ายรูปนั้นจริงๆ (ครูปรีชาหรือเปล่าเนี่ย) แถมนาย Marcio Cabral … Read more

จับเข่าคุย Shigemi Sugimoto หัวหอกแห่งขุนเขา Olympus ทิศทางของบริษัทในปี2018จะเป็นอย่างไรในอนาคต?

ในงาน CP+ 2018 ที่ผ่านมาเมื่อต้นปี Shigemi Sugimoto ประธานคณะกรรมการฝ่ายธุรกิจการถ่ายภาพของ Olympus ได้ในสัมภาษณ์กับ imaging-resource สื่อมวลชนสายภาพถ่ายชื่อดังของต่างประเทศ ถึงทิศทางของบริษัทในอนาคตและแผนที่ดำเนินการในตลอดทั้งปี 2018 นี้ นี่คือบทสัมภาษณ์ของ Shigemi Sugimoto  “Olympus ดำเนินธุรกิจ 3 ประเภทธุรกิจในขณะนี้ ธุรกิจทางการแพทย์ ทางวิทยาศาสตร์ และการถ่ายภาพ ซึ่งธุรกิจหลักของ Olympus ในขณะนี้คือ ธุรกิจทางการแพทย์ Olympus เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์endocopes ให้กับทางการแพทย์ทั่วโลก มันเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจโดยรวมสำหรับพวกเราเป็นเวลาหลายปีแล้ว แต่ว่าการถ่ายภาพคือ การเพิ่มความสุขและความตื่นเต้นให้กับชีวิต เทคโนโลยีการถ่ายภาพของเรายังดำเนินร่วมกับธุรกิจทางการแพทย์” “อย่างไรก็ตาม ข้อมูลทางการเงินสำหรับไตรมาสที่สามของงบการเงินปี 2018 ยอดขายสุทธิอยู่ที่ 47 พันล้านเยน ซึ่งนั่นใกล้เคียงกับช่วงก่อนหน้า แต่รายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ 1.5 พันล้านเยน เพิ่มขึ้น 77% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เช่นเดียวกับ บริษัทส่วนใหญ่ของญี่ปุ่น Olympus จะทำงานในวันที่ 1 เมษายน – 31 มีนาคมของปีงบประมาณ ปีงบประมาณจะระบุด้วยปีปฏิทินที่เราวางเอาไว้ ดังนั้นปีงบประมาณ 2018 หมายถึงระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน … Read more

แทมรอนหวังเอาใจคอโซนี่ ปล่อยTamron 28-75 mm F/2.8 Di III RXD  ในราคามิตรภาพ 

  เป็นข่าวคราวมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ทางแทมรอนมีการประกาศว่าจะปล่อยเลนส์ 28-75 mm F/2.8 Di III RXD  เอาใจสาวกโซนี่ฟูลเฟรมเต็มพิกัด โดยสื่อส่วนใหญ่ได้ลองจับต้องมาบ้างแล้วในเวอร์ชั่นโปรโตไทป์ในงาน CP+ แต่ทางผู้บริหารยังไม่ยอมบอกรายละเอียดออกมามากนักสำหรับเจ้าเลนส์รูปหล่อตัวนี้ โดยเฉพาะเรื่องของกระจก Sony FE ที่ถือว่าเป็นพระเอกของเลนส์ตัวนี้ก็ไม่มีหลุดอกมาให้ชมแม้แต่นิดเดียว   และในที่สุดเช้าวันนี้ Tamron ประกาศวางขายและเปิดเผยรายละเอียดของเลนส์น้องใหม่รวมถึงราคาค่าตัวที่เหล่าช่างภาพเตรียมทุบกระปุกหมูรับขวัญ โดยทางแทมรอนเองออกมายืนยันว่าแทมรอนเป็นเจ้าแรกที่ผลิตเลนส์ Mount Sony FE ออกมาเป็นรายแรก งานนี้แทมรอนยังปล่อยวีดีโอแนะนำตัว Tamron 28-75 mm F/2.8 Di III RXDมาด้วย  สำหรับตัวเลนส์ออกแบบให้เข้าพวกกับกลุ่มกล้องโซนี่ฟูลเฟรม มิลเลอร์เลสพร้อมทั้งยังให้ความสำคัญด้านเทคนิคอย่างเรื่องของคุณภาพเลนส์ น้ำหนักและออโต้โฟกัสที่เงียบ โดยเลนส์ตัวนี้จะมีน้ำหนักเพียง 550 กรัมเท่านั้น ความยาวอยู่ที่ 11.6 เซนติเมตร ส่วนตัวบอดี้ใช้ polycarbonateแทนการใช้เหล็กเพื่อลดน้ำหนักของเลนส์แต่ยังสามารถที่จะพกสุดหล่อออกตะลุยสถานที่หนักๆได้เพราะยังป้องการเรื่องฝุ่นละอองและละอองน้ำได้ดีเช่นเดิม  ส่วนชิ้นเลนส์มีด้วยกันทั้งหมด 12 กลุ่ม 15 ชิ้นส่วนรวมไปถึง XLD(eXtra Low Dispersion) LD  (Low Dispersion) , GM (Glass Molded Aspherical) และ hybrid aspherical อีก 2 ชิ้น โดยชิ้นเลนส์เหล่านี้มีส่วนช่วยให้ลดจำนวนการใช้เลนส์ลงและยังช่วยให้ขนาดและน้ำหนักลงไปพร้อมกันด้วย    เชื่อว่าต้องมีคนสงสัยเรื่องชื่อแน่นอนสำหรับเลนส์ตัวใหม่จะอยู่ในซีรี่ย์  RXD(Rapid eXtra-silent stepping Drive) ที่จะมาสนุบสนุนในเรื่องของออโต้โฟกัสที่เงียบลงกว่าเดิมและเร็วขึ้นกว่าเดิม โดยทางแมรอนรับประกันว่าตอนถ่ายวีดีโอจะเงียบสนิทไร้เสียงรบกวนแน่นอน  โดย Tamron 28-75 mm F/2.8 Di III RXD  จะเริ่มวางขายได้ในวันที่ 24 พฤษภาคม 2018 ในราคา 800 USD หรือประมาณ 25293.65 บาทไทย ถือว่าเป็นราคาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาก หลังจากที่หลายคนต้องเจ็บปวดกับเลนส์ที่มีระยะใกล้เคียงของค่ายโซนี่ที่ถีบราคาไปสูงถึง 80000 กว่าบาท ซึ่งการออกเลนส์ระยะสารพัดประโยชน์นี้ออกมาเป็นการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้ช่างภาพลงไปเยอะและเรื่องน้ำหนักเองที่ต้องรอบรับว่าเบามากขึ้นช่วยให้การใช้งานและภาพลักษณ์เมื่อประกอบเข้ากับกล้องแล้วไม่ได้ดูตลกอย่างที่สาย DSLR มักจะชอบแซวกัน สำหรับเมืองไทยคาดว่าในเร็วๆนี้คงมีข่าวประกาศวางขายและราคาในไทยออกในไม่ช้านี้    ที่มา www.dpreview.com

Rolleiflex คืนชีพหลังจากหายหน้าไปกว่า 50 ปี

สำหรับช่างภาพวัยดักแก่คงจะคุ้นหน้าคุ้นตากับกล้อง Twin-lens reflex กล้องยอดนิยมในอดีตตั้งแต่ปี 1927 ซึ่งในปัจจุบันนั้นหาซื้อตามร้านค้าทั่วไปยากมากขึ้น เว้นแต่หาดูตามร้านขายกล้องเก่า แต่ในปีนี้ Rolleiflex จะกลับมามีชีวิตอีกครั้งในแบบดิจิตอลชื่อ Rolleiflex Instant Kamera หลังบริษัท Rollei ออกมาส่งสารถึงโลกออนไลน์ว่าเจ้าเพื่อนเก่าสี่เหลี่ยมผืนผ้าจะกลับมาโลดแล่นบนตลาดกล้องอีกครั้ง สำหรับประวัติความเป็นมาของเจ้า Rolleiflex ต้องย้อนกับไปในปี 1927 ก่อตั้งโดยสองเกลอ Paul Franke (de) และ  Reinhold Heidecke ร่วมก่อตั้งภายใต้ชื่อบริษัทว่า Werkstatt für Feinmechanik und Optik, ก่อนจะมีการปรับเปลี่ยนไปหลายชื่อจนท้ายที่สุดใช้ชื่อ Rollei Fototechnic GmbH & Co. KG ในปี 1981 จนมาในปี 1995 บริษัทแดนกิมจิ ซัมซุงเข้าซื้อบริษัทก่อนจะเปลี่ยนมืออีกครั้งหลัง Danish investment group เข้ามาเหมากิจการพร้อมเปลี่ยนชื่อบริษัทระดับตำนานนี้อีกครั้งในชื่อ Rollei GmbH ในปี 2004  โดยในตอนนี้บริษัทกำลังเปลี่ยนผ่านตัวเองเข้าสู่ยุคโลกดิจิตอลมากยิ่งขึ้น … Read more